เอเอฟพี - เกาหลีเหนือเมื่อวันจันทร์ (24) ประณามการประดับไฟคริสต์มาสของกลุ่มโบสถ์เกาหลีใต้ ใกล้พรมแดน ถือเป็น “การยั่วยุที่มิอาจยอมรับได้” เตือนพฤติกรรมที่ไม่ยั้งคิดนี้อาจจุดชนวนสงครามในคาบสมุทรเกาหลี
โบสถ์คริสต์ของเกาหลีใต้ประดับไฟระยิบระยับบนเสาเหล็กรูปทรงต้นไม้ บนยอดเขาแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของทหารในเมืองกิมโป ทางตะวันตกของกรุงโซล ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ (22) ที่ผ่านมา
แสงไฟระยิบระยับนี้สามารถมองเห็นได้ไกลหลายกิโลเมตรในเกาหลีเหนือ ที่เต็มไปด้วยความมืดมิดจากปัญหาขาดแคลนพลังงาน และมันจะถูกประดับไว้อย่างนั้นจนถึงช่วงต้นเดือนมกราคม
สำนักงานข่าวกลางเกาหลีเหนือระบุว่า “การประดับไฟนี้คือการท้าทายเราอย่างโต้งๆ และเป็นพฤติกรรมยั่วยุที่ไม่สามารถยอมรับได้” พร้อมเตือนว่าสงครามจิตวิทยาตามแนวชายแดนของเกาหลีใต้ครั้งนี้ นับเป็นพฤติกรรมที่ไม่ยั้งคิดที่อาจจุดชนวนสงครามคาบสมุทรตามมา
ยุคก่อนนโยบาย “ตะวันทอแสง (Sunshine Policy)” ช่วงในปี 1998 เกาหลีใต้จะดำเนินการประดับไฟแสงสีของโซลช่วงคริสต์มาสในทุกๆปี การกระทำที่เรียกเสียงประณามเกี่ยวกับสงครามจิตวิทยาจากเปียงยาง ที่กล่าวหาเกาหลีใต้พยายามแผ่ขยายคริสต์ศาสนาในชาติคอมมิวนิสต์แห่งนี้
ในปี 2004 สองชาติเกาหลี เห็นพ้องระงับการโฆษณาชวนเชื่อข้ามพรมแดนในระดับของทางการ นำมาซึ่ง เกาหลีใต้ หยุดประดับไฟช่วงคริสต์มาสตามแนวชายแดน
อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้กลับมาประดับไฟคริสต์มาสอีกครั้งเมื่อปี 2010 ตอบโต้กรณีที่เกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่เข้าใส่เกาะแห่งหนึ่งของพวกเขา กระนั้นก็ดีปีที่แล้วมีอันต้องระงับไป เพื่อแสดงถึงมิตรไมตรีอันดีตามหลังการถึงแก่อสัญกรรมของคิมจองอิล ผู้นำแดนโสมแดง
อนึ่ง ในประดับไฟคริสต์มาสในปีนี้จุดชนวนความกังวลต่อชาวบ้านท้องถิ่นบางส่วนที่ออกมาชุมนุมประท้วง เนื่องจากวิตกว่ามันอาจนำมาซึ่งการตอบโต้แก้เผ็ดของฝั่งเกาหลีเหนือ