เอเอฟพี - รัฐบาลญี่ปุ่นชุดใหม่ซึ่งนำโดยว่าที่นายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ อาจเปิดเจรจาเพื่อเข้าเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) ที่มีสหรัฐฯ เป็นตัวตั้งตัวตี รายงานเผยวันนี้ (24)
รัฐบาลโตเกียวเคยแสดงท่าทีสนใจเข้าร่วมทีพีพีมาก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่อาจตกปากรับคำ เพราะเกิดกระแสต่อต้านจากภาคเกษตรกรรม
การเข้าร่วมทีพีพีของญี่ปุ่นซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญต่อความร่วมมือระดับภูมิภาคซึ่งเป็นยุทธศาสตร์หลักในนโยบายมุ่งสู่เอเชียของประธานาธิบดีบารัค โอบามา และยังช่วยคานอำนาจปักกิ่งที่กำลังขยายอิทธิพลอย่างกว้างขวางในเอเชียแปซิฟิก
ข้อตกลงร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคเสรีนิยมประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของอาเบะ และพรรคนิวโกเมอิโตะ เผยถึงความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นจะลงนามเป็นหุ้นส่วนทีพีพี ว่า “รัฐบาลจะเลือกหนทางที่ดีที่สุดเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง” หนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุน รายงาน
พรรคแอลดีพีและนิวโกเมอิโตะ ซึ่งจะเริ่มบริหารประเทศอย่างเป็นทางการในวันพุธนี้ (26) ยังตกลงที่จะส่งเสริมกรอบการค้าเสรีอื่นๆ ด้วย
ถ้อยแถลงครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณบวกต่อการเข้าร่วมทีพีพี ยิ่งกว่าคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ก่อนวันเลือก 16 ธันวาคม ซึ่งแอลดีพีคว้าชัยชนะมาอย่างถล่มทลาย
พรรคของอาเบะพยายามสร้างความเชื่อมั่นต่อเกษตรกรญี่ปุ่น โดยแถลงในช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่า พรรคจะ “คัดค้านการนำญี่ปุ่นเข้าร่วมทีพีพี หากยังมีข้อกำหนดให้ต้องยกเลิกภาษีแบบไม่มีข้อยกเว้น” เช่นเดียวกับนิวโกเมอิโตะ ซึ่งก็เคยสงวนท่าทีเกี่ยวกับการที่ญี่ปุ่นจะร่วมเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิกกับสหรัฐฯ
หลัง อาเบะ ชนะการเลือกตั้งได้เพียงวันเดียว เคอิดันเร็น ซึ่งเป็นบริษัทล็อบบี้รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ก็ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่เปิดเจรจาทีพีพีกับสหรัฐฯ โดยเร็วที่สุด
“เราขอให้รัฐบาลชุดใหม่เปิดเจรจาเข้าเป็นสมาชิกทีพีพีโดยเร็ว เพราะญี่ปุ่นไม่ควรเสียเวลาเรื่องนี้อีกต่อไป” ฮิโรมาสะ โยเนกุระ ประธานบริษัทเคอิดันเร็นระบุในถ้อยแถลง
ล็อบบียิสต์ในญี่ปุ่นเชื่อว่า เศรษฐกิจที่อิงการส่งออกเป็นหลักของเมืองปลาดิบจะได้ประโยชน์มหาศาลจากข้อตกลงการค้าเสรีระดับนานาชาติ