xs
xsm
sm
md
lg

"สุรินทร์" เลขาฯอาเซียน เตือน จีนกำลังเพิ่มเชื้อไฟแห่งความขัดแย้งในภูมิภาค จากปัญหาทะเลจีนใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) กล่าวที่กรุงจาการ์ตา ของอินโดนีเซียในวันศุกร์ (30)ระบุแผนการของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่จะส่งเจ้าหน้าที่บุกขึ้นเรือและทำการตรวจค้นเรือทุกลำ ที่แล่นเข้าสู่น่านน้ำบริเวณหมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนอ้างว่าเป็นเขตอธิปไตยของตนนั้น จะยิ่งเป็นการโหมกระพือเชื้อไฟแห่งความขัดแย้งและเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาค

เลขาธิการอาเซียนชาวไทย วัย 63 ปีซึ่งอยู่ในตำแหน่งมาตั้งแต่ 1 มกราคม ปี 2008 ระบุว่า การที่รัฐบาลจีนเตรียมนำมาตรการดังกล่าวมาใช้กับเรือของต่างชาติ ที่จีนมองว่ารุกล้ำอธิปไตยของตนนั้น จะยิ่งทำให้ความขัดแย้งระหว่างบรรดาประเทศที่อ้างสิทธิ์เหนือหมู่เกาะพิพาทต่างๆในทะเลจีนใต้ทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น

ดร.สุรินทร์ซึ่งจะหมดวาระในสิ้นปี 2012 นี้ ย้ำถึงประเด็นความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ว่า ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ที่จะต้องมีการแสดงออกถึงการยับยั้งชั่งใจและความพยายามในการแก้ปัญหาด้วยความรอบคอบ พร้อมทั้ง เปิดใจรับฟังความวิตกกังวลของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในทุกๆด้าน

ทั้งนี้ ทะเลจีนใต้กลายเป็นพื้นที่แห่งความขัดแย้ง ที่สุ่มเสี่ยงจะก่อให้เกิดการใช้กำลังกระทบกระทั่งกันมากที่สุดของเอเชียในขณะนี้ หลังจากที่จีน ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน เวียดนาม บรูไน และมาเลเซียต่างอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะพิพาทหลายแห่งในน่านน้ำแถบนี้ซึ่งเชื่อว่าอุดมไปด้วยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจำนวนมหาศาล

**เตือนทะเลจีนใต้จะเป็น “ปาเลสไตน์” ของเอเชีย**

ก่อนหน้านี้ ดร.สุรินทร์ก็ได้ให้สัมภาษณ์ไฟแนนเชียลไทมส์ หนังสือพิมพ์แนวธุรกิจการเงินอันทรงอิทธิพลของอังกฤษ ซึ่งนำมาตีพิมพ์ไว้ในฉบับวันพุธ(28พ.ย.) โดยที่เลขาธิการอาเซียนผู้กำลังจะพ้นตำแหน่งผู้นี้ ได้กล่าวเตือนว่า มีความเสี่ยงอยู่มากที่กรณีพิพาทในทะเลจีนใต้จะกลายเป็น “ปาเลสไตน์” ของเอเชีย ซึงสถานการณ์มีแต่เลวร้ายลงเรื่อยๆ จนกระทั่งกลายเป็นความขัดแย้งรุนแรง ที่ทำลายเสถียรภาพของทั่วทั้งภูมิภาค

ดร.สุรินทร์กล่าวกับ ไฟแนนเชียลไทมส์ ว่า เอเชียกำลังเคลื่อนเข้าสู่ยุคที่ “พิพาททะเลาะกันมากที่สุด” ในรอบหลายๆ ปี จากการที่จีนกำลังก้าวผงาดขึ้นมา และยืนยันอ้างสิทธิเหนือดินแดนแทบจะทั้งหมดของเขตทะเลจีนใต้

“เราจะต้องระวังใส่ใจกับข้อเท็จจริงที่ว่า ทะเลจีนใต้สามารถที่จะวิวัฒนาการกลายเป็นปาเลสไตน์อีกแห่งหนึ่งได้เลยทีเดียว” ถ้าหากประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไม่ใช้ความพยายามให้มากขึ้นเพื่อบรรเทาคลี่คลายความตึงเครียด แทนที่จะไปโหมกระพือให้ร้อนระอุ เลขาธิการอาเซียนกล่าวเตือน

ดร.สุรินทร์ให้ความเห็นด้วยว่า การที่สถานการณ์ในทะเลจีนใต้กำลังเลวร้ายลงนั้น ที่สำคัญแล้วเป็นผลมาจาก “พลวัตภายในของจีน” ทั้งนี้การที่ปักกิ่งกำลังให้ความสำคัญเน้นหนักกับเรื่องอธิปไตยและดินแดนของตน ก็เนื่องมาจากมีการเปลี่ยนถ่ายคณะผู้นำเมื่อเร็วๆ นี้ ขณะที่ประเทศก็มีความมั่งคั่งมากขึ้น ในเวลาเดียวกันก็มีความรู้สึกว่าตนยังคงอยู่ในกระบวนการแห่งการสร้างประเทศ

เลขาธิการอาเซียนผู้นี้บอกว่า หนทางที่ให้ความหวังมากที่สุดในการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งก็คือ อาเซียนและจีนควรต้องเห็นพ้องต้องกันเกี่ยวกับข้อตกลงแนวปฏิบัติ (code of conduct) ที่มีผลผูกพันให้ต้องทำตาม ซึ่งจะเหนี่ยวรั้งประเทศต่างๆ ไม่ให้ใช้ความพยายามเข้าไปยึดครองหมู่เกาะเล็กเกาะน้อย, แหล่งน้ำมันและก๊าซ, ตลอดจนพื้นที่ทำประมง เพื่อสนับสนุนการประกาศอ้างอธิปไตยเหนือดินแดนในทะเลจีนใต้ของพวกตน

กำลังโหลดความคิดเห็น