xs
xsm
sm
md
lg

IMFเร้าผู้นำยุโรปเร่งแก้วิกฤตหนี้ ฟื้นเสถียรภาพระบบการเงินโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเจนซีส์ - ไอเอ็มเอฟกำชับในรายงานฉบับล่าสุด ยุโรปต้องจัดการวิกฤตของตัวเองที่กำลังกดดันระบบการเงินโลกหนักหน่วงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนเพิ่มความเสี่ยงสภาพคล่องตึงตัวและภาวะเศรษฐกิจถดถอย พร้อมกันนั้นก็แนะอเมริกา-ญี่ปุ่นเรียนรู้จากยูโรโซน อย่ารอจนกว่าพลังในตลาดบีบจึงค่อยลุกมาปรับเปลี่ยนนโยบายที่จำเป็น

“ผู้วางนโยบายของยุโรปจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อฟื้นความเชื่อมั่น เวลานี้ เสถียรภาพการเงินโลกมีความเสี่ยงมากขึ้น และตลาดการเงินก็ผันผวน ขณะที่ผู้วางนโยบายยุโรปยังกำลังยื้ดยุดกับวิกฤตที่ยังคงยืดเยื้อ” รายงานว่าด้วยเสถียรภาพการเงินโลกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่นำออกเผยแพร่เมื่อวันพุธ (10) ระบุ

ทั้งนี้ เดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศแผนซื้อพันธบัตรรัฐบาลของชาติยูโรโซนที่มีหนี้สินก้อนใหญ่ ทว่าต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขอันเคร่งครัด ปรากฏว่าจวบจนถึงตอนนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ประเทศที่มีปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสเปน จะรับข้อเสนอนี้หรือไม่

ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (8) ยูโรโซนได้เปิดตัวกลไกรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (อีเอสเอ็ม) ซึ่งเป็นกองทุนถาวรมูลค่า 500,000 ล้านยูโร (643,000 ล้านดอลลาร์) ที่ถือเป็นก้าวย่างสำคัญในการต่อสู้วิกฤตหนี้ที่ฉุดยุโรปเข้าสู่ภาวะถดถอย

ข้อเสนอแนะจากรายงานฉบับนี้ของไอเอ็มเอฟ ครอบคลุมการลดหนี้สาธารณะและยอดขาดดุลในรูปแบบที่สนับสนุนการเติบโต และสะสางภาคการธนาคารที่รวมถึงการเพิ่มทุนหรือปรับโครงสร้างประดาแบงก์ที่มีโอกาสอยู่รอด และยุบพวกแบงก์ที่ไม่มีแนวโน้มว่าจะอยู่รอดได้

รายงานยังเตือนว่า วิกฤตยูโรโซนที่เลวร้ายลงเป็นความเสี่ยงใหญ่ที่สุดสำหรับเสถียรภาพการเงินโลก ทว่า ความไม่สมดุลที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศอื่นๆ ก็เป็นประเด็นที่น่ากังวลเช่นเดียวกัน เช่น สหรัฐฯ และญี่ปุ่นที่กำลังเผชิญอุปสรรคทางการเงินเพิ่มขึ้น ซึ่งหากไม่แก้ไข อาจทำให้ระบบการเงินโลกต้องแบกรับความกดดันมากขึ้น

“ทั้งสองประเทศต้องการแผนการลดการขาดดุลในระยะกลางที่ปกป้องการเติบโตและฟื้นความมั่นใจในตลาดเงิน

“ปัญหาของยุโรปควรเป็นบทเรียนสำหรับประเทศที่มีหนี้สูงอย่างอเมริกาและญี่ปุ่น ว่าการชะลอการปรับนโยบายสำคัญจนกระทั่งพลังในตลาดบีบนำไปสู่ผลลัพธ์หนักหน่วงทางเศรษฐกิจ” โฮเซ วินาลส์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและตลาดทุนไอเอ็มเอฟแนะ

รายงานสำทับว่า พวกประเทศเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ที่สามารถรับมือความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกหลายระลอกในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเป็นอย่างดี ก็จำเป็นต้องตั้งรับผลกระทบจากวิกฤตยุโรปควบคู่ไปกับการบริหารจัดการเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัวลง

อนึ่ง วันอังคารที่ผ่านมา (7) ไอเอ็มเอฟได้เผยแพร่รายงานทิศทางแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุด ซึ่งตอกย้ำความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกด้วยการเตือนถึงความเป็นไปได้ของภาวะถดถอย อีกทั้งลดตัวเลขคาดการณ์อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกในปีนี้ลงอยู่ที่ 3.3% จากที่เคยคาดไว้ 3.5% เมื่อเดือนกรกฎาคม และ 3.6% สำหรับปีหน้า เทียบกับที่เคยคาดไว้ที่ 3.9% แม้แต่ประเทศเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ทรงพลังอย่างจีน อินเดีย และบราซิล ต่างถูกปรับลดอัตราขยายตัวโดยพร้อมเพรียง

ทว่า การคาดการณ์ดังกล่าวอยู่บนสมมติฐานที่ว่า ผู้นำยุโรปสามารถจัดการวิกฤตหนี้ และนักการเมืองอเมริกันสามารถยับยั้งการลดการใช้จ่ายก้อนใหญ่และการขึ้นภาษีที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2013 ได้

“ความล้มเหลวในการจัดการปัญหาเหล่านี้อาจทำให้แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกเลวร้ายลงไปอีก” รายงานทิศทางแนวโน้มเศรษฐกิจโลกของไอเอ็มเอฟทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น