เอเอฟพี - สายการบิน เจแปน แอร์ไลน์ส (JAL) กลับเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์อย่างเป็นทางการ วันนี้(19) โดยราคาหุ้นขยับขึ้นกว่า 3 เปอร์เซ็นต์จากราคาเสนอขายในช่วงเช้า หลังจากที่สายการบินแห่งนี้เคยประสบความล้มเหลวทางธุรกิจครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์แดนอาทิตย์อุทัย เมื่อ 3 ปีก่อน
ราคาหุ้นเจเอแอลขยับขึ้น 3.03% จากราคาเสนอขาย มาอยู่ที่ 3,905 เยน (ราว 1,520 บาท) หลังนักลงทุนต่างขานรับการกลับมาสู่ตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง โดยหุ้นที่เสนอขายในวันนี้(19) มีมูลค่ารวมถึง 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 261,000 ล้านบาท) และถือเป็นการเทขายหุ้นที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ รองจากหุ้นไอพีโอของเฟซบุ๊ก
เจเอแอล เคยประสบภาวะล้มละลายด้วยหนี้สินสูงถึง 2.3 ล้านล้านเยน (ราว 896,000 ล้านบาท) ในเดือนมกราคมปี 2010 และถูกถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์โตเกียวในอีก 1 เดือนให้หลัง ต่อมาศาลสั่งคุ้มครองจากภาวะล้มละลาย และได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลในการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เป็นวงเงินราว 350,000 ล้านเยน (ราว 136,000 ล้านบาท) ซึ่งระหว่างนั้น เจเอแอล ยังสามารถทำการบินได้ตามปกติ
เมื่อไม่นานนี้ เจเอแอล ได้รับยกย่องให้เป็นสายการบินที่ทำกำไรสูงที่สุดในโลก
โยชิฮารุ อูเอกิ ประธานเจเอแอล ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว ดาวโจนส์ นิวส์ไวร์ เกี่ยวกับคำถามของนักลงทุนที่ต้องการทราบว่า เจเอแอล จะสามารถคงแนวโน้มการเติบโตที่รวดเร็วนี้ไว้ได้อีกนานเท่าใด
“ผมเชื่อมั่นว่า ในอีก 5 ปีหรือ 10 ปี เราจะยังเติบโตต่อไปอย่างมั่นคง” อูเอกิ ให้สัมภาษณ์ โดยอ้างถึงผลของการปรับโครงสร้างบริษัท
ประธาน เจเอแอล ชี้ด้วยว่า ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นว่าด้วยข้อพิพาทหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออก จะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อบริษัท พร้อมอธิบายว่า ผู้บริหารสายการบินมีประสบการณ์รับมือภาวะที่ผู้โดยสารลดลงอย่างฮวบฮาบ เมื่อครั้งที่ญี่ปุ่นต้องเผชิญผลพวงจากแผ่นดินไหวและสึนามิ ปี 2011
“เราได้เตรียมแผนรับมือหลักๆไว้เรียบร้อย ซึ่งจะช่วยให้เราตอบสนองปัญหาได้อย่างรวดเร็ว” อูเอกิ ระบุ
