xs
xsm
sm
md
lg

Weekend Focus: ครบรอบ 11 ปีวินาศกรรม 9/11 ความทรงจำวิปโยคที่เริ่มเลือนหาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - แสงไฟสีน้ำเงิน 2 ลำพุ่งขนานขึ้นสู่ท้องฟ้านิวยอร์กยามค่ำคืน เป็นอนุสรณ์ถึงอาคารแฝดที่เคยตั้งตระหง่านอยู่ ณ จุดนั้น เมื่อวันครบรอบเหตุวินาศกรรม 11 กันยายนที่หลอนหัวใจชาวอเมริกันมานานนับสิบปี เวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่ง

ทว่าบรรยากาศของพิธีรำลึกในปีนี้กลับดูเงียบเหงากว่าทุกปีที่ผ่านมา และอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ภาพความทรงจำอันโหดร้ายเริ่มจะจืดจางไปจากความรู้สึกของชาวอเมริกันส่วนใหญ่เสียแล้ว ความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวของอเมริกันชนที่เคยเข้มข้นหลังเกิดเหตุเครื่องบินชนตึกเมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 ดูจะเริ่มสร่างซาลงไป เมื่อวันเวลาผ่านพ้นกว่า 1 ทศวรรษ
อาคาร นิว เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ซึ่งจะกลายเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดของมหานครนิวยอร์ก
ญาติผู้เสียชีวิตยังคงเดินทางมาร่วมพิธีรำลึกที่ กราวนด์ซีโร สระน้ำคู่รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของอาคารแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ก่อนจะมีการอ่านรายชื่อผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 9/11 เมื่อปี 2001 และเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่เคยเกิดขึ้นที่นี่เมื่อปี 1993 รวมทั้งสิ้น 2,983 คน

พิธีการถูกหยุดไว้ชั่วขณะ เมื่อถึงเวลาที่เครื่องบิน 4 ลำซึ่งถูกกลุ่มอัลกออิดะห์จี้ กลายสภาพเป็นระเบิดเพลิงคร่าชีวิตผู้โดยสาร 2 ลำแรกพุ่งเข้าชนอาคารเหนือและใต้ของเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์, ลำที่ 3 พุ่งเข้าใส่อาคารกระทรวงกลาโหม และลำสุดท้ายตกลงสู่ทุ่งในมลรัฐเพนซิลเวเนีย

ผู้ร่วมพิธีหยุดยืนสงบนิ่งอีก 2 ครั้ง เมื่อถึงช่วงเวลาที่อาคารเหนือและใต้ทรุดถล่มลงมา พร้อมกับชีวิตผู้คนนับพันบนเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ที่ถูกปลิดปลงไปพร้อมกัน

นายกเทศมนตรี ไมเคิล บลูมเบิร์ก และบุคคลสำคัญในแวดวงการเมือง ไม่ได้มากล่าวสุนทรพจน์เหมือนเช่นเคย แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากปีที่แล้วซึ่งประธานาธิบดี บารัค โอบามา นำแขกวีไอพีจำนวนมากไปร่วมพิธีไว้อาลัยครบรอบ 10 ปีที่กราวนด์ซีโร
แสงไฟสีน้ำเงิน 2 ลำพุ่งสู่ท้องฟ้า เป็นอนุสรณ์ให้ชาวอเมริกันรำลึกถึงอาคารแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์
สำหรับปีนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯและสตรีหมายเลขหนึ่ง มิเชล โอบามา เพียงยืนไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตที่หน้าทำเนียบขาว ก่อนจะเดินทางไปยังอนุสรณ์สถาน 9/11 ที่อาคารเพนตากอน ส่วนรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน เป็นผู้แทนเดินทางไปยังเมืองแชงส์วิลล์ รัฐเพนซิลเวเนีย ที่ซึ่งเที่ยวบิน 93 ของสายการบิน ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ประสบอุบัติเหตุตก หลังผู้โดยสารร่วมใจกันต่อสู้ผู้ก่อการร้ายอย่างกล้าหาญ จนสามารถหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่อาจตามมามากมายยิ่งกว่า หากคนร้ายก่อการได้สำเร็จตามที่วางแผนไว้

วันเวลาที่ล่วงเลยมานานกว่า 1 ทศวรรษดูจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สังคมอเมริกันเริ่มคลายความทุกข์โศกจากเหตุการณ์ 9/11 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผ่านวาระครบรอบ 10 ปี ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าควรจะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดไปแล้ว

นอกจากนี้ การที่ โอบามา ส่งหน่วยรบพิเศษซีลส์บุกดินแดนปากีสถาน จนสามารถปลิดชีพ อุซามะห์ บินลาดิน ได้สำเร็จเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2011 ก็ถือเป็นการปิดฉากปฏิบัติการพลิกแผ่นดินล่าตัวผู้ก่อการร้ายที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ 9/11 ลงได้อย่างสวยงาม
สระน้ำขนาดใหญ่ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์
ญาติเหยื่อ 9/11 หวั่นอนาคต “กราวนด์ซีโร” สิ้นมนต์ขลัง

เวลาที่ผ่านไปนานกว่า 10 ปีทำให้เกิดช่องว่างทางความรู้สึกระหว่างผู้คนที่เคยรอดชีวิตหรือสูญเสียคนที่รักไปกับโศกนาฏกรรมเมื่อ 11 ปีก่อน กับสังคมปัจจุบันที่นับวันภาพของอาคารแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์จะค่อยๆลบเลือนไปจากความทรงจำ

“หากท่านพบเห็นผู้ใดขีดข่วน, นั่งทับ หรือทำลายป้ายสลักชื่อผู้เสียชีวิต โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ดูแลอนุสรณ์สถานทันที” คือข้อความที่ติดไว้รอบสระน้ำทั้ง 2 แห่งบริเวณกราวนด์ซีโร ขณะที่ตำรวจ หน่วยรักษาความปลอดภัย และไกด์อาสาสมัคร ต่างเน้นย้ำผู้มาเยือนให้ตระหนักถึงมารยาทและการให้ความเคารพต่ออนุสรณ์สถาน ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ชนรุ่นหลังได้รำลึกถึงวันที่ผู้บริสุทธิ์กว่า 2,600 ชีวิตต้องจากโลกนี้ไป พร้อมกับอวสานของตึกแฝดซึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของอเมริกา

ครอบครัวผู้เสียชีวิตเริ่มเห็นถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยว ตั้งแต่การจับกลุ่มปิกนิกใต้ต้นโอ๊คที่ปลูกขึ้นใหม่ จนถึงกรณีเมื่อเดือนมิถุนายนที่มีนักเรียนไฮสกูลคนหนึ่งโยนเศษขยะลงไปในสระน้ำรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งเดิมของอาคารแฝด

แม้จะยังไม่เคยมีใครเจตนาก่อกวนหรือบ่อนทำลายอนุสรณ์สถานกราวนด์ซีโร แต่พฤติกรรมบางอย่างของผู้มาเยือน เช่น การโพสท่าถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน ก็ถือว่ามากเกินพอสำหรับญาติของผู้ตายที่มองว่าพื้นที่แห่งนี้คือ “ผืนดินศักดิ์สิทธิ์”

มาเรียนน์ พิตซิโตลา หัวหน้ากลุ่มพนักงานดับเพลิงวัยเกษียณ ยื่นจดหมายถึงประธานมูลนิธิกราวนด์ซีโร โจเซฟ แดเนียลส์ เพื่อร้องเรียนว่า “ผู้คนเข้ามาถ่ายรูปและหัวเราะคิกคัก บางคนถือแก้วกาแฟสตาร์บักส์ยืนพิงแผ่นป้ายที่มีชื่อของเพื่อนดิฉันสลักอยู่ ราวกับมันเป็นโต๊ะในครัวอย่างไรอย่างนั้น”

ข้อเสนอของนายกเทศมนตรี ไมเคิล บลูมเบิร์ก ที่ต้องการให้ตัดทอนพิธีอ่านรายชื่อของเหยื่อร่วม 3,000 คน เคยเรียกเสียงตำหนิอย่างรุนแรงจากครอบครัวผู้เสียชีวิตมาแล้ว และหากจะนับข้อถกเถียงเรื่องการตั้งศูนย์วัฒนธรรมอิสลามใกล้ๆกราวนด์ซีโร ตลอดจนการประท้วงของกลุ่มผู้ไม่เชื่อในพระเจ้าที่คัดค้านการวางไม้กางเขนไว้ในพิพิธภัณฑ์กราวนด์ซีโรด้วยแล้ว อนุสรณ์สถานซึ่งควรจะเป็นสถานที่อันสงบเงียบเพื่อให้ชนรุ่นหลังได้รำลึกถึงผู้ที่จากไป ก็นับว่ายังห่างไกลจากจุดประสงค์ที่แท้ของมัน

สิ่งที่หลายฝ่ายหวั่นเกรงก็คือ หลังจากอาคาร “นิว เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์” ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ และเปิดให้เจ้าของธุรกิจเข้าเช่าพื้นที่ กราวนด์ซีโรก็จะถูกเปิดต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการด้วยเช่นกัน หากถึงวันนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับ 9/11 จะยังหลงเหลืออยู่มากน้อยเพียงใด ลานร่มครึ้มรอบบ่อน้ำพุจะกลายเป็นเพียงสถานที่ปิกนิกสำหรับผู้นิยมการท่องเที่ยวเชิงความตาย (dark tourism) และเป็นลานอเนกประสงค์ที่พนักงานออฟฟิศหลายพันคนใช้เป็นจุดนัดพบยามพักเที่ยงเท่านั้นหรือเปล่า

ตามข้อมูลเมื่อเดือนมกราคม ปี 2010 สำนักงานผู้ตรวจสอบทางการแพทย์ (Medical Examiner’s Office) สามารถระบุเอกลักษณ์ของชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบบริเวณกราวนด์ซีโรได้เพียง 60 เปอร์เซ็นต์ และยังมีเหยื่ออีกกว่าพันคนที่ยังสูญหาย
กำลังโหลดความคิดเห็น