เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ราคาพืชผลซึ่งเป็นอาหารหลักของประชากรโลกอาจเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าภายในอีก 20 ปีข้างหน้า สืบเนื่องจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและภัยธรรมชาติที่รุนแรง เช่น ความแห้งแล้งและพายุเฮอริเคน องค์กรต่อสู้ความยากจน “ออกซ์แฟม” (Oxfam) รายงานวันนี้(5)
ออกซ์แฟม ระบุว่า งานวิจัยที่ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในปัจจุบันยังไม่ครอบคลุมผลกระทบของสภาพอากาศที่เลวร้ายอย่างปัจจุบันทันด่วน ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้นในสัดส่วนพอๆกับการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว
“เราคาดว่า ราคาอาหารโลกจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายในปี 2030 แต่จากการจำลองสถานการณ์ก็พบว่า สภาพอากาศที่เลวร้ายเพียงครั้งเดียวก็อาจกระตุ้นให้ราคาอาหารขยับสูงถึงขั้นนั้นได้” ออกซ์แฟม เผย
จากผลของสภาพอากาศเลวร้าย เช่น ภัยแล้งหรือคลื่นความร้อนที่เกิดในสหรัฐฯปีนี้ คาดว่าราคาส่งออกข้าวโพดทั่วโลกในปี 2030 จะสูงกว่าปี 2010 ถึง 177 เปอร์เซ็นต์ ส่วนราคาข้าวสาลีและข้าวสารจะขยับขึ้นประมาณ 120 และ107 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ผลการศึกษาโดยคณะนักวิจัยจากสถาบันศึกษาการพัฒนา มหาวิทยาลัยซัสเซ็กส์ สหราชอาณาจักร โดยการมอบหมายของออกซ์แฟม ระบุ
การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เช่น อุณหภูมิที่สูงขึ้นหรือฝนที่ไม่ตกต้องตามฤดูกาลนั้น คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาอาหารเพียง 1 ใน 3 หรือไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่สภาพที่อากาศเลวร้ายจะมีผลรุนแรงมากกว่าในระยะยาว
“ภัยแล้งในสหรัฐฯปีนี้แสดงให้เห็นว่า เมื่อสภาพอากาศแปรปรวนอย่างรุนแรง ย่อมหมายถึงราคาพืชอาหารหลักที่จะพุ่งสูงตามไปด้วย” ออกซ์แฟม ระบุ
ข้อมูลจากธนาคารโลกเปิดเผยว่า ภัยแล้งในสหรัฐฯส่งผลให้ราคาอาหารโลกขยับขึ้นราวๆ 10 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกรกฎาคม โดยในส่วนของข้าวโพดราคาขยับขึ้นถึง 25 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าจะสูงขึ้นอีก
คณะวิจัยสภาพอากาศของยูเอ็น ซึ่งทำนายว่าอุณหภูมิโลกจะสูงขึ้นราว 2.5 องศาเซลเซียสภายในศตวรรษนี้ ระบุว่า สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงจากฝีมือมนุษย์มีส่วนทำให้เกิดคลื่นความร้อนรุนแรงบ่อยขึ้น และสภาพอากาศที่เลวร้ายเช่นนี้ก็มีแนวโน้มจะเกิดมากขึ้นในอนาคต
เนื่องจากประชากรในประเทศกำลังพัฒนาใช้จ่ายรายได้ร้อยละ 75 ไปกับค่าอาหาร ออกซ์แฟม จึงเตือนว่า ปัญหาราคาอาหารพุ่งสูงอาจทำให้ประชากรกลุ่มนี้เสี่ยงต่อภาวะทุพโภชนาการ
องค์กรแห่งนี้เรียกร้องให้ทั่วโลกหันมาร่วมมือกันลดก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุของโลกร้อนอย่างจริงจัง และให้ประเทศกำลังพัฒนาจัดตั้งกองทุนเพื่อเตรียมรับผลกระทบของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง