เอเอฟพี - สหประชาชาติเตือนถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดวิกฤตการณ์ด้านอาหารซ้ำรอยเมื่อปี 2007-2008 พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศผู้นำของโลกดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันหายนะซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคนหลายสิบล้าน
“สถานการณ์ในปัจจุบันในตลาดอาหารโลก ซึ่งราคาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพิ่มความกังวลว่าจะเกิดวิกฤตอาหารโลกเช่นเมื่อปี 2007-2008 อีกครั้ง” หน่วยงานด้านอาหารต่างๆ ของยูเอ็นระบุในถ้อยแถลง
“ทว่า มาตรการความร่วมมือระหว่างประเทศที่ฉับไวอาจหยุดยั้งไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นได้ เราจำเป็นต้องลงมืออย่างเร่งด่วนเพื่อให้แน่ใจว่าภาวะช็อกด้านราคาเหล่านี้จะไม่กลับมาเป็นหายนะทำร้ายผู้คนหลายสิบล้านคนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า” ถ้อยแถลงดังกล่าวเสริม
ทั้งนี้ มีความกังวลว่าสถานการณ์ความแห้งแล้งในสหรัฐฯ ซึ่งดันราคาเมล็ดพืชพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ อาจก่อให้เกิดวิกฤตอาหารขึ้นอีกครั้ง เช่นเดียวกับเมื่อปี 2007-2008 ที่ส่งผลให้จำนวนผู้อดอยากทั่วโลกสูงกว่าพันล้านคน
ในคำแถลงดังกล่าว ซึ่งออกโดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) หน่วยงานต่างๆ ของยูเอ็นแนะว่า ผู้นำโลกจะต้องร่วมกันแก้ปัญหาราคาอาหารพุ่งสูง ตลอดจนคำถามเรื่องการผลิต และบริโภคอาหารด้วย
อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวยังเตือนว่า ประเทศต่างๆ ไม่ควรตื่นตระหนกซื้ออาหารกักตุน หรือสั่งห้ามการส่งออก เนื่องจากนั่นสามารถช่วยเหลือผู้บริโภคภายในประเทศได้เพียงชั่วคราว แต่ไม่ประสิทธิภาพ และยังสร้างความลำบากให้แก่ผู้อื่นอีก
เอฟเอโอ ร่วมกับกองทุนระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาเกษตรกรรม (ไอเอฟเอดี) และโครงการอาหารโลก (ดับเบิลยูเอฟเอ) ยังแนะนำให้รัฐบาลต่างๆ พัฒนาทรัพยากรที่มีอยู่แล้วเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะช็อก และวิกฤตด้านอาหาร เช่น ความช่วยเหลือชาวนาชาวไร่รายย่อย ส่งเสริมโภชนาการแม่และเด็ก รวมถึงอาหารโรงเรียน