เอเจนซีส์ - เกาหลีใต้เจอไต้ฝุ่นลูกใหม่ พบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย เพิ่มเติมจาก 19 ชีวิตที่สังเวย “โบลาเวน” มาสดๆ ร้อนๆ ส่วนในสหรัฐฯ “ไอแซค” ลดระดับจากเฮอริเคนเป็นพายุโซนร้อน แต่หอบฝนหนักและลมแรง รวมทั้งอุทกภัยประเคนพื้นที่ชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม ปราการป้องกันน้ำท่วมเมืองนิวออร์ลีนส์สามารถสอบผ่านบททดสอบแรกในรอบ 7 ปีหลัง “แคทรีนา”
ไต้ฝุ่น “เทมบิน” ที่มีความเร็วลม 83 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดดินถล่มในเมืองซุนเชิน ทางใต้ของเกาหลีใต้เมื่อวันพฤหัสบดี (30) รวมทั้งทำให้เกิดฝนตกในบางพื้นที่ของประเทศ นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิต 1 คนในเมืองยองกัม ทางตะวันตกเฉียงใต้ และอีกคนที่เมืองชิวนันตอนกลางของประเทศ
กระทรวงคมนาคมเผยว่า เที่ยวบินภายในและระหว่างประเทศ 173 เที่ยวบินระงับการให้บริการ ขณะที่โรงเรียนจำนวนมากต้องปิดหรือเลื่อนเวลาทำการ ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนทางใต้ของประเทศ ส่วนบริการเรือเฟอร์รี่ในทะเลหลายเส้นทางตอนใต้และตะวันตกเฉียงใต้ปิดให้บริการเช่นเดียวกัน
สำนักงานพยากรณ์อากาศรายงานว่า เทมบินเคลื่อนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 24 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดว่าจะถึงทะเลญี่ปุ่น (ทะเลตะวันออก) คืนวันพฤหัสบดี ก่อนลดระดับเป็นพายุโซนร้อนเช้าวันศุกร์
ทั้งนี้ เมื่อวันอังคาร (28) ไต้ฝุ่นโบลาเวนเพิ่งถล่มเกาหลีใต้สดๆ ร้อนๆ โดยถือเป็นไต้ฝุ่นที่สร้างความเสียหายแก่แดนกิมจิมากที่สุดในรอบเกือบทศวรรษ ทำให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุด 19 ราย ก่อนเคลื่อนเข้าไปทำลายพืชผลในเกาหลีเหนือ
ส่วนที่สหรัฐฯ ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติรายงานว่า เฮอริเคนไอแซคมีแนวโน้มลดระดับลงเป็นดีเปรสชันเขตร้อนในวันพฤหัสบดี ขณะมุ่งหน้าขึ้นเหนือสู่รัฐอาร์คันซอส์ แต่ยังทำให้มีฝนตกหนักและน้ำท่วมขณะที่เคลื่อนผ่านใจกลางประเทศในช่วง 2-3 วันต่อจากนี้
ไอแซคถือเป็นบทพิสูจน์ว่า ระบบป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ราบต่ำของเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา สามารถสอบผ่านการทดสอบครั้งแรกในรอบ 7 ปีหลังพายุแคทรินาทำลายเมืองนี้ยับเยิน และทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,800 คน
มิตช์ แลนดริว นายกเทศมนตรีนิวออร์ลีนส์ กล่าวว่า ระบบป้องกันน้ำท่วมมูลค่า 14,500 ล้านดอลลาร์ที่เหล่าทหารช่างสร้างขึ้นและประกอบด้วยผนังกันน้ำ ประตูน้ำ เขื่อน และปั๊มนั้น ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพตามที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ดี เมืองนี้ยังมีฝนตกหนักและลมแรงในช่วงคืนวันพุธ (29) และบ้านเรือนและอาคารธุรกิจราว 60% ไม่มีไฟฟ้าใช้ เช่นเดียวกับประชาชนกว่า 730,000 คนในรัฐลุยเซียนา และมิสซิสซิปปี สำหรับสนามบินนานาชาติหลุยส์ อาร์มสตรอง ของนิวออร์ลีนส์ ยังคงปิดให้บริการตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันพฤหัสฯ เนื่องจากไฟฟ้าดับ
ไอแซคซึ่งเป็นเฮอริเคนระดับ 1 ถือว่ายังห่างชั้นมากจากแคทรีนาที่เป็นระดับ 3 ขณะเข้าถล่มนิวออร์ลีนส์เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2005 นอกจากนี้ จากข้อบ่งชี้เบื้องต้น ความเสียหายต่อทรัพย์สินจากไอแซคไม่มีแนวโน้มติดอันดับ 10 เฮอริเคนที่รุนแรงที่สุดในอเมริกา โดยอิเควแคต บริษัทจำลองสถานการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติ คาดว่าไอแซคอาจสร้างความเสียหายรอบๆ ลุยเซียนาและภาคการผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งในอ่าวเม็กซิโก คิดเป็นมูลค่าราว 2,500 ล้านดอลลาร์
กระนั้น พายุลูกนี้ยังคงสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื่องจากมันเคลื่อนที่ช้ามาก จึงทำให้เกิดฝนตกราวกับไม่ยอมหยุด ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในที่ราบต่ำใกล้ชายฝั่ง และประชาชนจำนวนมากติดอยู่บนหลังคา
ไอแซคคืบคลานอย่างช้าๆ หลังจากเฉียดผ่านชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ของลุยเซียนาเมื่อวันอังคาร ทว่า การลดความเร็วทำให้ไอแซคสามารถสะสมกำลังและทำให้เกิดฝนตกนานกว่าที่คาดไว้ น้ำท่วมและคลื่นพายุซัดฝั่ง ทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพจากบ้านในบริเวณไม่ไกลจากนิวออร์ลีนส์นัก
เป็นที่คาดว่า ไอแซคจะทำให้เกิดฝนตกทั้งสิ้น 18-36 เซนติเมตรในบางพื้นที่ มากพอที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้างในบริเวณที่ราบต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางพื้นที่ในลุยเซียนา มิสซิสซิปปี แอละแบมา และอาร์คันซอส์ คาดว่าจะมีฝนตกถึง 62.5 เซนติเมตร
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประกาศให้ลุยเซียนาและมิสซิสซิปปี เป็นพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติรุนแรง และสั่งให้รัฐบาลกลางส่งความช่วยเหลือเพิ่มเติมไปให้ทั้งสองมลรัฐ
ขณะที่ บ็อบบี้ จินดัล ผู้ว่าการลุยเซียนา เผยว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย จากเหตุดินถล่มเมื่อคืนวันอังคาร