เอเจนซี - แหล่งข่าววงในเผย “โอบามา” ลงนามคำสั่งลับๆ ในช่วงก่อนหน้านี้ของปีนี้ อนุมัติให้หน่วยข่าวกรองและหน่วยงานอื่นๆ ของสหรัฐฯ สนับสนุนฝ่ายโค่นล้มอัสซาดในซีเรีย ขณะที่สถานการณ์การสู้รบในเมืองอะเลปโปยังคงดุเดือด โดยกลุ่มกบฏบอกว่าใช้รถถังที่ยึดมาได้โจมตีฐานทัพอากาศ ส่วนที่เมืองหลวงดามัสกัสมีรายงานว่ารัฐบาลกำลังไล่ล่าฝ่ายต่อต้าน
“ผลวินิจฉัย” ด้านข่าวกรอง ที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามอนุมัติไป เป็นการอนุญาตอย่างกว้างๆ ให้สำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) และหน่วยงานอื่นๆ ให้การสนับสนุนที่อาจช่วยให้กลุ่มกบฏสามารถปลดประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรียลงจากบัลลังก์ เรื่องนี้จึงเป็นการบ่งชี้ท่าทีซึ่งเปลี่ยนไปให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธที่ต่อต้านอัสซาดมากขึ้น แม้ยังอยู่ภายใต้ขอบเขตจำกัดก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ไม่สามารถตกลงมติเพิ่มมาตรการลงโทษดามัสกัสเมื่อเดือนที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการเปิดเผยว่าผู้นำสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งนี้เมื่อใดแน่ๆ รวมทั้งความสนับสนุนทั้งหลายที่จะให้แก่กลุ่มกบฏก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจน ขณะที่ ทอมมี ไวเตอร์ โฆษกทำเนียบขาว เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับข่าวนี้ ก็ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น แต่เขาไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ว่า ฝ่ายข่าวกรองของสหรัฐฯอาจให้การสนับสนุนแก่กบฏซีเรียมากกว่าที่เคยเปิดเผยกัน
แหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯ ยอมรับว่า ภายใต้คำวินิจฉัยของประธานาธิบดี สหรัฐฯ กำลังให้ความร่วมมือกับศูนย์บัญชาการลับที่ดำเนินการโดยตุรกีและพันธมิตรอื่นๆ
สัปดาห์ที่แล้ว รอยเตอร์รายงานว่า ตุรกี ซาอุดีอาระเบีย และกาตาร์ ตั้งฐานลับในเมืองอดานา ของตุรกี ที่อยู่ห่างจากพรมแดนซีเรีย 60 ไมล์ และเป็นที่ตั้งฐานทัพอากาศอินเซอร์ลิกของสหรัฐฯ เพื่อให้การสนับสนุนโดยตรงด้านการทหารและการสื่อสารที่สำคัญแก่กลุ่มต่อต้านอัสซาด
เจ้าหน้าที่อเมริกันเผยว่า ทางการอิสตันบูลมีส่วนเกี่ยวข้องมากขึ้นในการจัดการฝึกและอาจรวมถึงอาวุธให้กบฏซีเรีย ขณะที่แหล่งข่าวในรัฐบาลยุโรปแย้มว่า ครอบครัวมหาเศรษฐีในซาอุดีอาระเบียและกาตาร์ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กบฏซีเรีย โดยที่เจ้าหน้าที่อาวุโสของสองประเทศนี้ได้ออกมาเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้อัสซาดลาออก เช่นเดียวกับรัฐบาลอิสลามสายกลางของตุรกี
วันอังคารที่ผ่านมา (31 ก.ค.) เอ็นบีซี นิวส์รายงานว่า กองทัพปลดแอกซีเรีย (เอฟเอสเอ) กลุ่มกบฎติดอาวุธกลุ่มสำคัญ ได้รับจรวดยิงจากพื้นสู่อากาศแบบพกพาจำนวนกว่า 20 ชุดโดยส่งผ่านทางตุรกี
ทว่า วันถัดมา บาสซาม อัล-ดาดา ที่ปรึกษาทางการเมืองของเอฟเอสเอ ปฏิเสธข่าวดังกล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่อเมริกันและยุโรปเผยว่า อาวุธที่กบฏซีเรียได้รับซึ่งจัดการและอัดฉีดโดยกาตาร์และซาอุดีฯ ส่วนใหญ่เป็นปืนและอาวุธต่อต้านรถถัง เช่น บาชูกา เท่านั้น
รายงานข่าวยังบ่งชี้ว่า หน่วยงานของสหรัฐฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องในการจัดหาอาวุธให้กบฏซีเรีย
นอกจากคำสั่งลับของโอบามาแล้ว สหรัฐฯยังกำลังให้การสนับสนุนประการอื่นๆ แก่ฝ่ายต่อต้านอัสซาด
กระทรวงต่างประเทศอเมริกันแถลงในวันพุธ (1) ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งงบ 25 ล้านดอลลาร์สำหรับความช่วยเหลือ “ที่ไม่เป็นอันตราย” แก่ฝ่ายต่อต้านอัสซาด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์สื่อสาร รวมทั้งงบอีก 64 ล้านดอลลาร์สำหรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวซีเรีย
วันเดียวกัน กระทรวงคลังสหรัฐฯ ยืนยันว่า อนุญาตให้ซีเรียน ซัพพอร์ต กรุ๊ป ทำธุรกรรมทางการเงินในนามของเอฟเอสเอ
สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ บางคน เช่น วุฒิสมาชิกจอห์น แมกเคน จากรีพับลิกัน วิจารณ์โอบามาว่าให้การช่วยเหลือกบฏซีเรียล่าช้า พร้อมแนะให้ติดอาวุธแก่ฝ่ายโค่นล้มอัสซาด แต่ก็มีสมาชิกรัฐสภาคนอื่นแนะให้ทำเนียบขาวใช้ความรอบคอบ เนื่องจากยังไม่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังของกลุ่มกบฏที่มีอยู่มากมายหลายกลุ่ม โดยรายงานข่าวเมื่อเร็วๆ นี้บ่งชี้ว่า นักรบอิสลามทรงอิทธิพลบางกลุ่มที่เชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์ ได้ร่วมต่อสู้เพื่อโค่นล้มอัสซาดด้วย
ผู้เชี่ยวชาญของอเมริกาและยุโรปต่างเชื่อว่า แม้กบฏซีเรียมีความคืบหน้าในการต่อสู้ แต่ความขัดแย้งในประเทศนี้จะยืดเยื้อไร้ทางออกอีกนานเป็นปี
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดนั้น ซีเรียน อ็อบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ ซึ่งเป็นองค์กรที่หนุนฝ่ายต่อต้าน แถลงว่า ช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (2) กลุ่มกบฏใช้รถถังที่ยึดมาได้โจมตีฐานทัพอากาศที่รัฐบาลใช้เป็นฐานปฏิบัติการทางตอนเหนือของเมืองอะเลปโป เมืองสำคัญอันดับสองของซีเรีย รวมทั้งยึดสถานีตำรวจ 3 แห่ง และโจมตีฐานที่มั่นย่อยๆ ทางทหาร
ด้านหนังสือพิมพ์ที่สนับสนุนรัฐบาลฉบับหนึ่งรายงานว่า กองกำลังความมั่นคงกำลังตามล่า “กลุ่มก่อการ้าย” ในดามัสกัส โดยชาวบ้านและนักเคลื่อนไหวระบุว่า มีการสังหารเหยื่ออย่างน้อย 35 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
ขณะที่ตัวอัสซาดเองออกคำแถลงเนื่องในวันกองทัพเมื่อวันพุธว่า กองทัพกำลังต่อสู้เพื่ออนาคตของชาติ ทว่า แพทริก เวนเทรลล์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงโจมตีทันทีว่า อัสซาดขี้ขลาดที่หลบซ่อนตัวและบงการให้ทหารเข่นฆ่าประชาชน โดยนับจากเหตุระเบิดสำนักงานข่าวกรองที่สังหารผู้ใกล้ชิด 4 คนเมื่อสองสัปดาห์ก่อน อัสซาดไม่เคยปรากฏตัวในที่สาธารณะเลย