เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลอังกฤษ ออกโรงเตือน นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ให้เตรียมหามาตรการรับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หลังมีความเป็นไปได้ ที่เงินซึ่งรัฐบาลกรีซมีอยู่ในมือขณะนี้ อาจหมดลง ซึ่งจะส่งผลให้กรีซกลายเป็นชาติที่ “สิ้นเนื้อประดาตัว” และต้องก้าวเข้าสู่ภาวะล้มละลายอย่างเต็มรูปแบบภายในวันที่ 20 สิงหาคม หรือไม่ถึง 1 เดือนนับจากนี้
รายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวที่เป็นผู้เชี่ยวชาญอาวุโสรายหนึ่งในรัฐบาลอังกฤษระบุว่า รัฐบาลเอเธนส์ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอันโตนิส ซามาราสเหลือเวลาไม่ถึง 1 เดือน และมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องได้รับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ก่อนที่จะสูญเสียศักยภาพในการชำระหนี้โดยสิ้นเชิง ดังนั้น รัฐบาลอังกฤษจึงควรเร่งหามาตรการรองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่จะเกิดขึ้นจากการล้มละลายของกรีซ ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นสูงมาก
คำเตือนของผู้เชี่ยวชาญซึ่งไม่มีการเปิดเผยชื่อดังกล่าวระบุว่า การก้าวเข้าสู่ภาวะล้มละลายของกรีซในเดือนสิงหาคมนี้ไม่เพียงจะส่งผลกระทบกับบรรดาประเทศสมาชิกยูโรโซนหรือกลุ่ม 17 ประเทศที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินตราสกุลหลักเท่านั้น แต่เศรษฐกิจของอังกฤษซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของโลกในแง่ของจีดีพีและใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลกในแง่ของอำนาจซื้อ จะต้องได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจโดยรวมของเมืองผู้ดี ซึ่งล่าสุดมีการหดตัวติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 แล้ว ถือเป็นการตกอยู่ในภาวะ “double-dip” ที่ยาวนานที่สุดในรอบมากกว่าครึ่งศตวรรษ
นอกจากนั้น ยังมีความเป็นไปได้ที่สเปนอาจต้องขอรับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจเต็มรูปแบบจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในเร็วๆนี้หลังจากเคยขอรับความช่วยเหลือเฉพาะภาคธนาคารเพียงอย่างเดียวไปแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจากต้นทุนในการกู้ยืมของรัฐบาลสเปนล่าสุดได้พุ่งสูงเกินกว่าร้อยละ 7 แล้วในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นปัญหาเดียวกันกับที่รัฐบาลอิตาลี ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติกำลังเผชิญอยู่
ในอีกด้านหนึ่ง แหล่งข่าวในคณะผู้ตรวจสอบ 3 ฝ่ายหรือ “ทรอยกา” ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากคณะกรรมาธิการยุโรป ธนาคารกลางยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศออกมาเปิดเผย หลังเดินทางไปยังกรุงเอเธนส์ของกรีซเมื่อวันอังคาร (24) โดยระบุว่า แทบไม่มีความคืบหน้าใดๆเกี่ยวกับการตัดลดการใช้จ่ายภาครัฐในกรีซตลอด 3-4 เดือนที่ผ่านมา และดูเหมือนสถานการณ์ของกรีซจะเลวร้ายลงกว่าเดิม ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลกรีซ "สอบตกอย่างสิ้นเชิง" ในการปฏิบัติตามเงื่อนไขขอรับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจคราวก่อน และโอกาสที่กรีซจะได้รับความช่วยเหลือทางการเงินรอบใหม่นั้นแทบจะเป็นศูนย์