เอเอฟพี/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- อันเดอร์ส บอร์ก รัฐมนตรีคลังของสวีเดนระบุวันนี้ (5) ว่า ความพยายามใดๆในการช่วยเหลือกรีซให้รอดพ้นจากภาวะล้มละลายอาจประสบความล้มเหลว แต่ถึงกระนั้นก็ยังเชื่อว่า รัฐบาลเอเธนส์จะยังคงหาทางประคองตนเองให้ได้อยู่ร่วมในกลุ่มยูโรโซน หรือ 17 ประเทศที่ใช้เงินยูโร เป็นเงินตราสกุลหลักต่อไปอย่างแน่นอน
ท่าทีล่าสุดของขุนคลังสวีดิช วัย 44 ปี มีขึ้นขณะที่เขาเปิดใจให้สัมภาษณ์กับรายการวิทยุสาธารณะรายการหนึ่ง โดยบอร์กซึ่งอยู่ในตำแหน่งมาตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2006 ระบุว่า จากสถานการณ์แวดล้อมและสภาพปัญหาที่กำลังรุมเร้ากรีซอยู่ในเวลานี้ ทำให้ไม่สามารถตัดทิ้งความเป็นไปได้ที่ว่า ท้ายที่สุดแล้วกรีซอาจต้องก้าวเข้าสู่ภาวะล้มละลายและสูญสิ้นศักยภาพในการชำระหนี้สินโดยสิ้นเชิง
ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีอันโตนิส ซามาราส ผู้นำกรีซวัย 61 ปี ที่เพิ่งได้ก้าวขึ้นมาครองอำนาจเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมาเพิ่งออกมายืนยันกับคณะผู้ตรวจสอบของสหภาพยุโรป(อียู),กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)ว่า รัฐบาลของเขามีความมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการปฏิรูปและกลับสู่เส้นทางแห่งการฟื้นตัวเพื่อให้สามารถกลับคืนสู่เวทีเศรษฐกิจโลกได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี บอร์ก ระบุว่า ถึงแม้รัฐบาลเอเธนส์จะประสบความสำเร็จ ในการเจรจาผ่อนผันเพื่อขอขยายเวลาการชำระหนี้ออกไปได้ และสามารถทำตามคำมั่นสัญญาต่างๆเรื่องการปฏิรูป แต่ทว่ามีความเป็นไปได้น้อยมากที่กรีซจะสามารถลดสัดส่วนหนี้สินของตนลงเหลือ 120 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีภายในปี 2020 เนื่องจากเป็นเป้าหมายที่สูงเกินกว่าที่สภาพเศรษฐกิจที่บอบช้ำย่ำแย่ของกรีซจะรับได้
รัฐมนตรีคลังสวีเดน ซึ่งประเทศของตนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มยูโรโซน ยังให้ความเห็นว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ถ้ากรีซล้มละลายแล้ว จะนำไปสู่การที่กรีซต้องก้าวออกจากกลุ่มยูโรโซนหรือไม่ แต่เชื่อว่ารัฐบาลกรีซจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนหลีกเลี่ยงจาก “ทางเลือกอันโหดร้าย” ดังกล่าว และได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มต่อไป