xs
xsm
sm
md
lg

WHO-กัมพูชาเร่งคลี่คลาย “โรคลึกลับ” พบเด็กเสียชีวิตแล้ว 64 รอดเพียง 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เด็กๆ และพ่อแม่ผู้ปกครองชาวกัมพูชา นั่งกันอยู่ที่โรงพยาบาลเด็ก คันธะ โบภา กรุงพนมเปญ เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เวลานี้องค์การอนามัยโลก (WHO) และ กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา กำลังเร่งค้นคว้าหาคำตอบเกี่ยวกับ “โรคลึกลับ” ที่คร่าชีวิตเด็กๆ ชาวกัมพูชาไปอย่างน้อย 56 คนแล้ว นับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
เอเอฟพี - องค์การอนามัยโลก (WHO) และกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาเร่งค้นคว้าหาคำตอบ “โรคลึกลับ” ที่ทำให้เด็กเขมรอย่างน้อย 56 คนเสียชีวิตนับตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา โดยที่ตัวเลขจากโรงพยาบาลเอกชนระบุจำนวนเหยื่อว่ามี 64 รายด้วยซ้ำ และเชื่อว่ามีเด็กเพียง 2 คนเท่านั้นที่รอดชีวิตจากโรคนี้

อัตราการเสียชีวิตที่ค่อนข้างสูงจากโรคลึกลับกำลังสร้างความกังวลให้แก่ชาวกัมพูชาที่ 30% มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ความยากจนของธนาคารโลก

WHO แจ้งเตือนเหล่าประเทศเพื่อนบ้านของกัมพูชาเกี่ยวกับโรคร้ายนี้ ซึ่งอาการเริ่มจากมีไข้สูง ตามด้วยอาการในระบบทางเดินหายใจและประสาท โดยที่การทำงานของระบบทางเดินหายใจเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่า พบผู้ป่วยโรคนี้ในประเทศอื่น

ไล โสวันน์ (Ly Sovann) รองอธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อของกัมพูชา แถลงเมื่อวันศุกร์ (6) ว่ากำลังตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลจากบันทึกคนไข้ทุกราย และหวังว่าจะมีความกระจ่างมากขึ้นในเร็วๆ นี้

ขณะที่ บีต ริชเนอร์ (Beat Richner) กุมารแพทย์และผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลเด็ก คันธะ โบภา (Kantha Bopha) ที่ให้การรักษาผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคร้ายแรงถึงประมาณ 85% ของทั้งหมดในกัมพูชา เป็นคนแรกที่ออกมาเตือนเกี่ยวกับโรคลึกลับนี้เมื่อเดือนที่แล้ว

แพทย์จากสวิตเซอร์แลนด์ผู้นี้ ให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตมากกว่ารายงานของ WHO โดยระบุว่ามีเด็กเสียชีวิตแล้ว 64 คนนับจากกลางเดือนเมษายน และ 2 คนฟื้นจากโรค

ริชเนอร์แจงว่า ผู้ป่วยเหล่านี้มีอายุไม่เกิน 7 ขวบ โดยส่วนใหญ่อายุ 2-3 ขวบ และเหยื่อรายล่าสุดเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ (7)

“เด็กทั้งหมดเหล่านี้มีอาการสมองอักเสบ และไม่กี่ชั่วโมงก่อนเสียชีวิตมีอาการปอดบวมรุนแรงโดยถุงลมภายในปอดเสียหาย ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต

“เราคิดว่า สาเหตุของโรคนี้อาจเกิดจากเชื้อไวรัส ภาวะเป็นพิษ หรือทั้งสองอย่าง” ริชเนอร์กล่าว

แม้ในขั้นต้นยังไม่อาจตัดความเป็นไปได้ว่าโรคนี้เป็นโรคติดต่อ แต่ริชเนอร์เผยว่า พบผู้ป่วย 2 คนในครอบครัวเดียวกัน ทว่ายังไม่มีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อหลังจากดูแลเด็กที่ป่วยด้วยโรคลึกลับนี้
เช่นเดียวกับ WHO ที่เผยว่า ไม่พบสัญญาณการระบาด แม้ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณตอนกลางและตอนใต้ของกัมพูชาก็ตาม

บุคลากรของริชเนอร์กำลังเร่งตรวจหาสาเหตุของโรคนี้เช่นเดียวกับWHOและกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา โดยส่งตัวอย่างเลือดและเนื้อเยื่อไปตรวจสอบที่สถาบันปาสเตอร์ ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยโรคติดต่อชื่อดังของฝรั่งเศส

ผลเบื้องต้นจากตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า เด็กบางคนติดเชื้อโรคมือ เท้า และปาก กระนั้น ริชเนอร์ยืนยันว่าต้องทำการวิเคราะห์เพิ่มเติม

เขาเสริมว่า ผู้ป่วยที่เสียชีวิตทั้งหมดเข้ารับการรักษาตัวในคลินิกเอกชนในท้องถิ่น โดยได้รับการฉีดยาหรือให้ยาทางเส้นเลือด ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลคันธะ โบภาในพนมเปญและจังหวัดเสียมเรียบ และบางคนเสียชีวิตหลังจากเดินทางถึงโรงพยาบาลไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
ริชเชอร์สำทับว่า เด็กสองคนที่รอดชีวิตได้รับการรักษาในโรงพยาบาลคันธะโบภาตั้งแต่แรก บ่งชี้ว่าการรักษาผิดพลาดอาจเป็นปัจจัยหนึ่งของการเสียชีวิต

ทว่า WHO ท้วงว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปสาเหตุ

ดร.ไนมา อัสการี ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของสำนักงาน WHO ในกัมพูชา ระบุว่ากำลังตรวจสอบความเป็นไปได้ของโรคนี้ โดยการเปรียบเทียบกับโรคอื่นที่มีลักษณะทางคลินิกคล้ายกันแต่เกิดจากเชื้อโรคคนละชนิด

WHO และเจ้าหน้าที่กัมพูชายังเรียกร้องให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหากมีอาการของ “โรคลึกลับ”

ขณะที่ริชเนอร์ยืนยันว่า ไม่มีเหตุผลที่ผู้ปกครองต้องตื่นตระหนก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการระบาดของไข้เลือดออก ที่เฉพาะในเดือนมิถุนายนมีเด็กเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคนี้กว่า 5,000 คน เปรียบเทียบกับเพียง 34 คนจากโรคลึกลับ
กำลังโหลดความคิดเห็น