xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำอิสลามิสต์ชนะเป็น ปธน.อียิปต์ ประกาศลั่นพร้อมปรองดองกองทัพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โมฮัมเหม็ด มอร์ซี เป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอียิปต์
เอเจนซีส์ - โมฮัมเหม็ด มอร์ซี เป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอียิปต์ ทั้งนี้ตามการแถลงของคณะกรรมการการเลือกตั้งเมื่อเย็นวันอาทิตย์ (24) ผู้สมัครของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ที่เป็นองค์กรอิสลามิสต์เก่าแก่ผู้นี้ ให้สัญญาว่าจะเป็น “ประธานาธิบดีของชาวอียิปต์ทั้งหมด” พร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายรวมถึงกองทัพ เพื่อนำกระบวนการปฏิวัติประชาธิปไตยบรรลุสู่จุดหมาย ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวในกลุ่มเผย มีการหารือกับเหล่านายพลอาวุโสตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเพื่อฟื้นรัฐสภาที่ถูกสั่งยุบตลอดจนแก้ไขประเด็นขัดแย้งอื่นๆ

ตลอดคืนวันอาทิตย์ จัตุรัสตอห์รีร์ ในกรุงไคโร สัญลักษณ์การปฏิวัติโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค อบอวลไปด้วยบรรยากาศของความยินดี หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศว่า มอร์ซี เฉือนชนะ อาเหม็ด ชาฟิก อดีตนายกรัฐมนตรีคนสุดท้ายในยุคมูบารัค ในการเลือกตั้งรอบสองอันเป็นรอบตัดสิน และได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเสรี ด้วยคะแนนโหวต 51.73% มากกว่าชาฟิกเพียง 3.5%

มอร์ซี วัย 60 ปีที่จบการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐฯ และเคยถูกจองจำทางการเมืองโดยตำรวจลับยุคมูบารัค ประกาศตนเป็น “ประธานาธิบดีของชาวอียิปต์ทั้งหมด” หลังได้รับรู้ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งรอบสองเมื่อวันที่ 16-17 อย่างเป็นทางการ

ผู้นำใหม่ของอียิปต์ยังย้ำว่า จะเคารพสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการพาดพิงโดยตรงถึงอิสราเอลที่กังวลเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพระหว่างประเทศทั้งสองเมื่อปี 1979 รวมทั้งเป็นการผ่อนคลายความวิตกของสหรัฐฯ ผู้มีอิทธิพลอย่างสูงในกองทัพอียิปต์

มอร์ซีสำทับว่าจะร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อให้การปฏิวัติสู่ระบอบประชาธิปไตยสัมฤทธิ์ผล

ผู้สังเกตการณ์ต่างมองว่า มอร์ซีมีทางเลือกน้อยมากนอกจากประนีประนอม และแหล่งข่าวในกลุ่มภราดรภาพมุสลิมเผยว่า ในเร็วๆ นี้อาจจะประกาศข้อตกลงอันมากมายหลายหลาก ที่ได้หารือกับเหล่านายพลอาวุโสตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

องค์กรอิสลามิสต์เก่าแก่กลุ่มนี้ และกองทัพอียิปต์ถูกดึงดูดเข้าสู่วงจรการเอื้อประโยชน์แก่กัน หลังจากสภาทหารสูงสุดปลดมูบารัคเพื่อเอาใจผู้ประท้วงทั่วประเทศที่ลุกฮือต่อต้านรัฐบาลเมื่อปีที่แล้ว

กลุ่มภราดรภาพมุสลิม ที่เป็นแบบอย่างให้แก่พรรคแนวทางนิยมอิสลามจำนวนมากในประเทศต่างๆ ตระหนักดีว่าต้องเล่นเกมยาว ต้องพร้อมมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนผ่านประเทศ อย่างไรก็ดี เมื่อกลุ่มนี้ชักมีอำนาจมากขึ้น ความร่วมมือกับฝ่ายอื่นๆ โดยเฉพาะฝ่ายทหาร ก็ชักรวนเร

ในการเลือกตั้งรัฐสภาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ปรากฏว่ากลุ่มนี้สามารถครองเสียงได้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้มีอิทธิพลสูงในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ยิ่งกว่านั้นในการเลือกตั้งประธานาธิบดี กลุ่มภราดรภาพมุสลิมยังทำท่าจะเป็นผู้ชนะ โดยได้คะแนนเสียงมากที่สุดในการเลือกตั้งรอบแรก เหล่านี้ดูจะเป็นสิ่งที่เกินจะทนทานแบกรับสำหรับ จอมพลฮุสเซน ตันตาวี และสภาทหารสูงสุด (เอสซีเอเอฟ) ของเขา

และแล้วฝ่ายตุลาการที่ยังคงเป็นผลิตผลของยุคมูบารัค ก็ได้เดินหมากก้าวสำคัญ โดยที่ศาลรัฐธรรมนูญสูงสุดตัดสินว่า กฎหมายฉบับว่าด้วยการเลือกตั้งรัฐสภานั้นเป็นโมฆะ ดังนั้นรัฐสภาที่ได้มาด้วยกฎหมายดังกล่าวจึงต้องเป็นโมฆะด้วย

เอสซีเอเอฟได้เร่งรีบใช้อำนาจดำเนินการให้เป็นไปตามคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญสูงสุด และในวันที่กำลังมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบสองนั้นเอง เอสซีเอเอฟยังอ้างภาวะที่ไม่มีรัฐสภา มาประกาศเข้ายึดอำนาจนิติบัญญัติไว้ในมือ รวมถึงบทบาทสำคัญในการแต่งตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ อีกทั้งปัดฝุ่นกฎอัยการศึกบางมาตรา

กระนั้น เอสซัม แฮดแดด เจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (25) ว่า มอร์ซีได้เจรจากับสภาทหารสูงสุดเพื่อฟื้นรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งและแก้ไขในประเด็นอื่นๆ โดยยอมแลกเปลี่ยนกับการยินยอมให้กองทัพเป็นผู้อนุมัติการแต่งตั้งคณะรัฐบาลและคณะบริหารที่มอร์ซีเสนอ

เจ้าหน้าที่เผยว่า กลุ่มภราดรภาพมุสลิม ได้ทาบทาม โมฮัมเหม็ด เอลบาราเด อดีตผู้อำนวยการทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) และเจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพ รับตำแหน่งระดับสูง ซึ่งอาจเป็นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ชาฟิกแสดงความยินดีต่อมอร์ซี และเผยว่าพร้อมรับตำแหน่งในคณะบริหารหากได้รับการร้องขอ

นอกจากนี้ กลุ่มภราดรภาพยังประกาศจะร่วมกับผู้ประท้วงกดดันกองทัพ ทว่า เมื่อดูจากประเด็นขัดแย้งมากมาย เชื่อว่าจุดยืนนี้อาจอ่อนลงในไม่ช้าไม่นาน กองทัพนั้นต้องการให้มอร์ซีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 30 นี้ เพื่อให้ทันเส้นตายที่ประกาศไว้ว่าจะคืนอำนาจให้แก่พลเรือน

ทางด้านแหล่งข่าวในสภาทหารสูงสุดได้กล่าวถึงการเลือกตั้งล่าสุดว่า “เป็นตัวอย่างที่แท้จริงของประชาธิปไตยสำหรับทั่วโลก” พร้อมกันนั้นก็ระบุว่าขณะนี้ความกดดันไปตกอยู่ที่มอร์ซี เพราะในฐานะประธานาธิบดีคนใหม่จะต้องทำให้ประเทศเป็นเอกภาพ และสร้างแนวร่วมการเมืองและกลุ่มปฏิวัติเพื่อฟื้นฟูประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมือง

ประเด็นที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด คือ กลุ่มปฏิวัติในเมืองที่ริเริ่มการประท้วงเมื่อปีที่แล้วและพบว่าตัวแทนของตนพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกในเดือนที่ผ่านมา รวมถึงกลุ่มผู้สนับสนุนระบอบเก่าที่กลัวสูญเสียสิทธิพิเศษที่เคยมี หลายคนที่สนับสนุนชาฟิกกำลังเป็นเดือดเป็นแค้นว่าถูกกองทัพทรยศ

เช่นเดียวกับผู้นำอีกหลายประเทศ ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ แสดงความยินดีต่อมอร์ซี และยืนยันว่า วอชิงตันจะให้การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยรวมทั้งยืนหยัดเคียงข้างชาวอียิปต์ที่กำลังเดินหน้าพันธะสัญญาของการปฏิวัติ พร้อมเรียกร้องให้มอร์ซีตั้งรัฐบาลแห่งความปรองดองที่เคารพสิทธิพลเรือนของชาวอียิปต์ทั้งหมด โดยเฉพาะผู้หญิงและชนกลุ่มน้อยชาวคริสเตียน
กำลังโหลดความคิดเห็น