รอยเตอร์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะทรงรับการทูลเกล้าฯถวายเงินรายปีเพิ่มขึ้นอีก 20% รวมเป็นปีละ 36 ล้านปอนด์ (ราว 1,788 ล้านบาท) หลังจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ทำผลกำไรสูงเป็นประวัติการณ์ในปีงบประมาณที่แล้ว
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (The Crown Estate) มีผลกำไรสูงถึง 240.2 ล้านปอนด์ (ราว 12,000 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นราวๆ 4% ในปีงบประมาณ 2011 ซึ่งสิ้นสุดไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สืบเนื่องจากความนิยมของผู้ค้าที่ต้องการเช่าอาคารแถบถนนรีเจนท์และย่านเซนต์เจมส์ในกรุงลอนดอนเพิ่มมากขึ้น
สมเด็จพระราชินีนาถจะทรงรับการทูลเกล้าฯ ถวายเงินเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 36 ล้านปอนด์ จากเดิม 30 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นระดับที่คงไว้มาตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2010 ตามกฎหมายซึ่งระบุให้รายรับของสมเด็จพระราชินีนาถขึ้นอยู่กับผลกำไรของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นหลัก
“นี่คือผลประกอบการที่ยอดเยี่ยม และผมมั่นใจว่าทุกฝ่ายคงจะพึงพอใจ” อลิสัน นิมโม ผู้บริหารสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เผย
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายเงินภาษีส่วนหนึ่งตามที่รัฐสภากำหนด บวกกับงบส่วนอื่นๆ ที่รัฐบาลจัดถวาย อันเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติสืบมาตั้งแต่พระเจ้าจอร์จที่ 3 ทรงสละผลกำไรจากทรัพย์สินส่วนพระองค์ทั้งหมดให้แก่กระทรวงการคลัง เมื่อปี 1760
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จะส่งมอบผลกำไรทั้งหมดให้แก่กระทรวงการคลัง และตามกฎหมายใหม่ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปีงบประมาณ 2013-2014 รัฐบาลอังกฤษจะทูลเกล้าฯถวายเงินร้อยละ 15 ของผลกำไรในช่วง 2 ปีก่อนหน้าแด่สมเด็จพระราชินีนาถ เพื่อทรงใช้สอยตามพระราชอัธยาศัย
การแก้ไขกฎหมายดังกล่าวก็เพื่อรับรองว่า เงินรายปีที่ทูลเกล้าฯ ถวายองค์พระประมุขจะเพิ่มหรือลดลงตามสภาพเศรษฐกิจที่แท้จริงของอังกฤษ ซึ่งในปีนี้เริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยรอบ 2 นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก ปี 2008
แม้รายได้ของสมเด็จพระราชินีนาถในปีงบประมาณถัดไปจะถือว่าสูงที่สุดในรอบ 5 ปี แต่ก็ยังไม่ถึงครึ่งของปี 1991 ซึ่งทรงได้รับการถวายเงินรายปีสูงถึง 77.3 ล้านปอนด์
