เปิดฉากเลือกตั้งรัฐสภากรีซ ทั่วโลกจับจ้องอนาคตกลุ่มยูโรโซน

เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-บรรดาผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชาวกรีก ที่ล้วนได้รับผลกระทบจากมาตรการรัดเข็มขัดอันเข้มงวด ต่างพากันเดินทางออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาในวันนี้ (17) ท่ามกลางการจับตามองของทั่วโลกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะชี้ชะตาอนาคตของกลุ่มยูโรโซนและเงินยูโรที่อาจถึงคราวล่มสลายหากกลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายเป็นฝ่ายคว้าชัย

รายงานข่าวระบุว่า ชาวกรีกที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาในครั้งนี้ มีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 9.8 ล้านคนจากประชากรทั้งประเทศราว 10.78 ล้านคนต่างพากันทยอยออกไปใช้สิทธิ์ของตน โดยสื่อท้องถิ่นในกรีซระบุว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้จะเป็นการขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้นระหว่างพรรคประชาธิปไตยใหม่ (เอ็นดี) พรรคการเมืองสายอนุรักษ์นิยมที่ให้การสนับสนุนแนวทางการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและมาตรการรัดเข็มขัดต่างๆ กับกลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายไซรีซาที่ชูนโยบายต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดอย่างรุนแรงและอาจนำกรีซออกจากกลุ่มยูโรโซน

ก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์ (16) นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงของเยอรมนีให้สัมภาษณ์โดยระบุ ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดที่ประชาชนชาวกรีกต้องตัดสินใจลงคะแนน ให้กับนักการเมืองที่มีจุดยืนเคารพในข้อกำหนดของมาตรการรัดเข็มขัดต่างๆ ขณะที่ฌอง โคล้ด ยุงเกอร์ ประธานกลุ่มยูโรกรุ๊ปหรือที่ประชุมรัฐมนตรีคลังของ 17 ชาติสมาชิกยูโรโซนออกมาเตือนว่าหากชาวกรีกลงคะแนนเลือกกลุ่มการเมืองไซรีซาภายใต้การนำของนายอเล็กซิส ซีปราสแล้ว อาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มิอาจคาดเดาได้ต่ออนาคตของยูโรโซน และอาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อตลาดการเงิน-การลงทุนทั่วโลก

ทั้งนี้ การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภารอบใหม่ในกรีซวันนี้ (17) ถือเป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 2 ภายในระยะเวลาเพียง 6 สัปดาห์เท่านั้น หลังการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมาจบลงแบบไร้พรรคการเมืองที่สามารถครองเสียงข้างมากเด็ดขาด เนื่องจาก 3 พรรคใหญ่สุด คือ พรรคประชาธิปไตยใหม่ (เอ็นดี) , แนวร่วมฝ่ายซ้ายไซรีซา, และพรรคสังคมนิยมแพนเฮลเลนิก (PASOK) ได้ที่นั่งในรัฐสภาคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 18.85 , 16.78 และ 13.18 ตามลำดับ นำมาซึ่งความยากลำบากในการจัดตั้งรัฐบาล และเป็นเหตุให้ต้องจัดเลือกตั้งรอบใหม่

ท่ามกลางกระแสข่าวและผลการสำรวจความคิดเห็นจากหลายสำนักที่ระบุ แนวร่วมฝ่ายซ้ายไซรีซา ภายใต้การนำของนักการเมืองหนุ่มไฟแรงวัย 37 ปีอย่างซีปราส อาจเป็นฝ่ายคว้าชัยในการเลือกตั้งรอบใหม่นี้ เนื่องจากนโยบายของเขาถูกใจมหาชนชาวกรีซจำนวนไม่น้อยที่กำลังระทมทุกข์กับการขึ้นภาษี และมาตรการรัดเข็มขัดต่างๆ ที่ผูกมากับเงินกู้ซึ่งทางรัฐบาลเอเธนส์ได้รับจากสหภาพยุโรป(อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า เกิดเหตุไฟป่าหลายจุดใกล้กับกรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของกรีซ เป็นเหตุให้ทางการต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงราว 260 นาย เข้าควบคุมเพลิงที่เริ่มลุกลามตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ (16) ส่งผลให้มีบ้านเรือนของประชาชน รวมถึงโรงงานและโรงเรียนถูกเผาทำลายไปหลายหลัง ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่อย่างน้อย 3 ราย โดยหนึ่งพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดคือ เขตพาลลินี ชานกรุงเอเธนส์ที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น รวมถึงที่เมืองเคราเทีย และพาไลอา โฟโกอา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองหลวงกรีซ

เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุของไฟป่าเกิดจากประกายไฟจากการเชื่อมโลหะของคนงานกลุ่มหนึ่งในพื้นที่ และมีรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคนงานรวม 4 คนไปดำเนินคดีแล้ว