เอเอฟพี - อินโดนีเซียอนุญาตให้พลเมืองเดินทางเข้าไปทำงานเป็นแม่บ้านในมาเลเซียอีกครั้ง หลังจากสั่งห้ามมา 3 ปีเต็ม เนื่องจากได้รับร้องเรียนกรณีแม่บ้านชาวอินโดนีเซียถูกละเมิดสิทธิหลายอย่าง แต่ปรากฎว่ายังมีแม่บ้านย้อนกลับไปทำงานเพียงไม่ถึง 1 ใน 3
อินโดนีเซียประกาศเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่า จะยกเลิกคำสั่งห้ามดังกล่าว หลังรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศทำข้อตกลงว่าจะดูแลและปกป้องชีวิตความเป็นอยู่ของแม่บ้าน รวมถึงให้มีวันหยุด 1 วันต่อสัปดาห์ด้วย
จาการ์ตา ออกคำส่งห้ามพลเมืองไปทำงานเป็นแม่บ้านในแดนเสือเหลืองตั้งแต่ปี 2009 หลังเกิดกรณีแม่บ้านอิเหนาถูกล่วงละเมิดจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองเพื่อนบ้านยักษ์ใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เจ้าหน้าที่จัดหางานในมาเลเซีย ระบุว่า แม้จะมีชาวอิเหนาเดินทางเข้ามาเป็นแม่บ้านน้อยลง “แต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย”
“4 วันที่ผ่านมา เราหาแม่บ้านชาวอินโดนีเซียได้เพียง 29 คนเท่านั้น เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่กล้ามา เพราะเกรงพิธีรีตองของสำนักงานจัดหางานในอินโดนีเซีย” เจฟฟรีย์ ฟู ประธานสมาคมสำนักงานแม่บ้านต่างด้าวแห่งมาเลเซีย เผยต่อหนังสือพิมพ์ นิว ซันเดย์ไทม์ส
สุรยานา ศาสตราดิเรจา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสังคมและวัฒนธรรมจากสถานทูตอินโดนีเซียในกรุงกัวลาลัมเปอร์ กล่าวว่า เขาเองก็ไม่ทราบว่าเหตุใดจำนวนแม่บ้านที่สมัครใจกลับเข้ามาทำงานในมาเลเซียจึงน้อยลงมาก แต่อาจเป็นได้ว่า พวกเธอกลัวการถูกละเมิดนั่นเอง
รายงานเปิดเผยว่า หลังจากคำสั่งห้ามถูกยกเลิกแล้ว คาดว่าจะมีชาวอิเหนาเดินทางมาทำงานเป็นแม่บ้านในมาเลเซียถึงเดือนละ 5,000 คน
แม่บ้านชาวอินโดนีเซียได้รับค่าแรงคนละ 600 ริงกิตต่อเดือน (ราว 6,000 บาท) แต่ส่วนใหญ่ก็ต้องทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำ และคนเหล่านี้มักเป็นผู้สูงวัยและเด็กที่ทำหน้าที่หุงหาอาหาร
ในอดีตเคยมีชาวอิเหนาทำงานเป็นแม่บ้านในมาเลเซียถึง 300,000 คน แต่คำสั่งแบนของรัฐบาลจาการ์ตาส่งผลให้จำนวนแม่บ้านขาดแคลน และกระทบถึงชีวิตประจำวันของพ่อแม่ชาวมาเลย์ที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน
ด้านกัมพูชาก็ออกคำสั่งห้ามประชาชนเดินทางเข้าไปทำงานเป็นแม่บ้านในมาเลเซียตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ด้วยเหตุผลคล้ายคลึงกัน