เอเอฟพี - ชาวอินโดนีเซียเรือนหมื่นจัดการชุมนุมประท้วงเนื่องในวันแรงงาน 1 พฤษภาคม ครั้งใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยเรียกร้องให้รัฐบาลอิเหนาขึ้นค่าแรงและประกันความมั่นคงในอาชีพ ท่ามกลางตำรวจและทหารซึ่งสนธิกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
การประท้วงของสหภาพแรงงานและพรรคฝ่ายซ้ายทั่วเอเชียต่างมีจุดประสงค์คล้ายๆ กัน ก็คือ ต้องการค่าแรงที่สูงขึ้นและสภาพการทำงานที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็ประณามรัฐบาลที่ไม่อาจแก้ปัญหาค่าครองชีพพุ่งสูง ในหลายประเทศซึ่งเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว
แรงงานอิเหนากว่า 9,000 คนมารวมตัวกันที่ใจกลางกรุงจาการ์ตา ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล พร้อมชูป้ายเรียกร้องค่าแรงเพิ่ม และให้บริษัทต่างๆ หยุดจ้างแรงงานภายนอก (outsource)
ริกวานโต โฆษกตำรวจจาการ์ตา เปิดเผยว่า ตำรวจและทหารรวม 16,000 นาย ถูกส่งมาควบคุมสถานการณ์บริเวณจุดชุมนุมแล้ว
“ค่าครองชีพสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่เงินเดือนเรากลับเท่าเดิม ทุกวันนี้เราแค่มีพอกินไปวันๆ แต่ไม่มีเงินเก็บในธนาคารเลย ไม่มีเงินไว้ให้ลูกหลานได้เรียนหนังสือด้วย” มูฮัมหมัด รุสดี แกนนำผู้ประท้วง ให้สัมภาษณ์
“งานที่ทำอยู่ก็ไม่มีความมั่นคง งานขายสินค้าทางโทรศัพท์หรือผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ล้วนแต่จ้างแรงงานภายนอกทั้งนั้น... เราต้องอยู่อย่างหวาดกลัวว่าจะตกงานเมื่อไหร่”
เดือนมีนาคมที่ผ่านมา รัฐสภาอินโดนีเซียปฏิเสธแผนขึ้นราคาน้ำมันอีก 1 ใน 3 จากที่รัฐบาลพยุงไว้ หลังเกิดการประท้วงรุนแรงในกรุงจาการ์ตา จนตำรวจต้องใช้ปืนฉีดน้ำและแก๊สน้ำตาเข้าปราบปรามประชาชน
พนักงานโรงงานย่านชานกรุงจาการ์ตาออกมาปิดถนนสายหลักและสนามบินนานาชาติ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้รัฐบาลต้องยอมปรับค่าแรงขั้นต่ำต่อเดือน จาก 1.29 ล้านรูเปียห์ (ราว 4,300 บาท) เป็น 1.49 ล้าน
รูเปียห์ (ราว 5,000 บาท)