นราธิวาส - ประธานหอการค้านราฯ เรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ หลังฝ่ายความมั่นคงใช้กำลังเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมากบุกเข้าตรวจค้นร้านค้าเช่นเดียวกับการล้อมจับผู้ก่อความไม่สงบ ส่งผลให้เกิดการเข้าใจผิดร้านค้าเสื่อมเสียชื่อเสียง วอนเช็กให้ถี่ถ้วนก่อน
นายกู้เกียรติ บูรพาพงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาส วอนฝ่ายความมั่นคง รวมถึงหน่วยงานด้านการปราบปรามยาเสพติดและการฟอกเงิน ดำเนินการแก้ปัญหาการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจชายแดนสำคัญของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยความเข้าใจสภาพพื้นที่
เนื่องจากที่ผ่านมา การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐมุ่งเน้นการปราบปรามโดยนำเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมากปิดล้อมเพื่อเข้าตรวจค้นร้านค้ าและสถานประกอบการในพื้นที่ ในลักษณะเดียวกับการจับกุมผู้ก่อความรุนแรงที่สร้างสถานการณ์ความไม่สงบ ส่งผลให้ผู้ประกอบการใน อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ประกอบอาชีพสุจริต โดยมีการค้าขาย และถือครองเงินสกุลริงกิตจากการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับประเทศมาเลเซียเป็นประจำ เช่นเดียวกับนักธุรกิจในเมืองชายแดนในทุกจังหวัดที่มีเงินตราต่างประเทศสำหรับหมุนเวียนในธุรกิจของตนเอง ขณะที่การเก็บเงินไว้ในตู้เซฟของบ้าน นอกเหนือจากการฝากผ่านบัญชีธนาคารก็ไม่ได้มีความแตกต่างจากพฤติกรรมของนักธุรกิจทั่วไป
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ผู้ประกอบการใน อ.สุไหงโก-ลกเกิดความตื่นตระหนก และหวาดกลัวกับการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยต่างเสียขวัญกับหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะนอกจากต้องระมัดระวังตนเองจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่แล้ว ยังต้องกังวลว่าจะมีเจ้าหน้าที่ชุดใดส่งกำลังเข้ามาบุกเข้าตรวจค้นร้านค้าของตนเองหรือไม่ ทั้งที่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเป็นผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย
ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาสกล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบพบว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่หรือสิ่งผิดกฎหมายก็ขอให้ดำเนินการทางคดีได้ตามปกติ โดยอาจมีการสืบสวน สอบสวนขยายผลในทางลับ หรือการเรียกตัวไปสอบสวนเป็นรายร้านค้า หรือรายบุคคลแทนการกระทำในรูปแบบการนำกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากเข้าไปตรวจค้น เพราะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของพื้นที่เมืองท่องเที่ยว
เช่นเดียวกับกรณีของร้านทองเลี่ยงอา เลขที่ 64 ถ.บุษยพันธ์ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นร้านทองที่ถูกปล้นทองไปเมื่อวันที่ 14 มี.ค.54 จนทำให้สองพี่น้องครอบครัวศรีทักษิณากุลเสียชีวิตถึง 2 ศพ และเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าตรวจค้นร้านทองดังกล่าวเป็นการซ้ำเติมจิตใจของผู้ประสบเหตุเป็นอย่างมาก เพราะจากการตรวจสอบกลับพบว่าสมุดบัญชีและวงเงินหมุนเวียนของทางร้านมีหลักฐานที่เป็นการประกอบธุรกรรมตามปกติไม่ได้มีส่วนเชื่อมโยงกับการกระทำผิดกฎหมายตามที่มีข่าวการซัดทอดของผู้กระทำผิดแต่อย่างใด แต่ข่าวที่เผยแพร่ออกไปก็ส่งผลให้ร้านค้าเสียหายไปแล้ว
ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับภาคธุรกิจในพื้นที่ หอการค้าจังหวัดนราธิวาสจะนำคณะผู้แทนจากหอการค้าจังหวัดนราธิวาสเข้าหารือกับหอการค้าไทย เพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจนก่อนจะเสนอต่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง หรือต้นสังกัดของหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ เพื่อให้มีการออกมาแสดงความรับผิดชอบ และหาแนวทางในการแก้ปัญหาพื้นที่เมืองชายแดนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งประเทศ
โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่อ่อนไหว ที่ล่าสุด ผู้ประกอบการในพื้นที่ส่วนใหญ่เกิดความหวาดวิตกจากภาวะกดดันที่เกิดขึ้นจนต้องการละทิ้งถิ่นฐานออกไปอยู่นอกพื้นที่กันหมดแล้ว
นายกู้เกียรติ บูรพาพงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาส วอนฝ่ายความมั่นคง รวมถึงหน่วยงานด้านการปราบปรามยาเสพติดและการฟอกเงิน ดำเนินการแก้ปัญหาการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจชายแดนสำคัญของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยความเข้าใจสภาพพื้นที่
เนื่องจากที่ผ่านมา การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐมุ่งเน้นการปราบปรามโดยนำเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมากปิดล้อมเพื่อเข้าตรวจค้นร้านค้ าและสถานประกอบการในพื้นที่ ในลักษณะเดียวกับการจับกุมผู้ก่อความรุนแรงที่สร้างสถานการณ์ความไม่สงบ ส่งผลให้ผู้ประกอบการใน อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ประกอบอาชีพสุจริต โดยมีการค้าขาย และถือครองเงินสกุลริงกิตจากการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับประเทศมาเลเซียเป็นประจำ เช่นเดียวกับนักธุรกิจในเมืองชายแดนในทุกจังหวัดที่มีเงินตราต่างประเทศสำหรับหมุนเวียนในธุรกิจของตนเอง ขณะที่การเก็บเงินไว้ในตู้เซฟของบ้าน นอกเหนือจากการฝากผ่านบัญชีธนาคารก็ไม่ได้มีความแตกต่างจากพฤติกรรมของนักธุรกิจทั่วไป
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ผู้ประกอบการใน อ.สุไหงโก-ลกเกิดความตื่นตระหนก และหวาดกลัวกับการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยต่างเสียขวัญกับหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะนอกจากต้องระมัดระวังตนเองจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่แล้ว ยังต้องกังวลว่าจะมีเจ้าหน้าที่ชุดใดส่งกำลังเข้ามาบุกเข้าตรวจค้นร้านค้าของตนเองหรือไม่ ทั้งที่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเป็นผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย
ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาสกล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบพบว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่หรือสิ่งผิดกฎหมายก็ขอให้ดำเนินการทางคดีได้ตามปกติ โดยอาจมีการสืบสวน สอบสวนขยายผลในทางลับ หรือการเรียกตัวไปสอบสวนเป็นรายร้านค้า หรือรายบุคคลแทนการกระทำในรูปแบบการนำกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากเข้าไปตรวจค้น เพราะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของพื้นที่เมืองท่องเที่ยว
เช่นเดียวกับกรณีของร้านทองเลี่ยงอา เลขที่ 64 ถ.บุษยพันธ์ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นร้านทองที่ถูกปล้นทองไปเมื่อวันที่ 14 มี.ค.54 จนทำให้สองพี่น้องครอบครัวศรีทักษิณากุลเสียชีวิตถึง 2 ศพ และเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าตรวจค้นร้านทองดังกล่าวเป็นการซ้ำเติมจิตใจของผู้ประสบเหตุเป็นอย่างมาก เพราะจากการตรวจสอบกลับพบว่าสมุดบัญชีและวงเงินหมุนเวียนของทางร้านมีหลักฐานที่เป็นการประกอบธุรกรรมตามปกติไม่ได้มีส่วนเชื่อมโยงกับการกระทำผิดกฎหมายตามที่มีข่าวการซัดทอดของผู้กระทำผิดแต่อย่างใด แต่ข่าวที่เผยแพร่ออกไปก็ส่งผลให้ร้านค้าเสียหายไปแล้ว
ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับภาคธุรกิจในพื้นที่ หอการค้าจังหวัดนราธิวาสจะนำคณะผู้แทนจากหอการค้าจังหวัดนราธิวาสเข้าหารือกับหอการค้าไทย เพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจนก่อนจะเสนอต่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง หรือต้นสังกัดของหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ เพื่อให้มีการออกมาแสดงความรับผิดชอบ และหาแนวทางในการแก้ปัญหาพื้นที่เมืองชายแดนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งประเทศ
โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่อ่อนไหว ที่ล่าสุด ผู้ประกอบการในพื้นที่ส่วนใหญ่เกิดความหวาดวิตกจากภาวะกดดันที่เกิดขึ้นจนต้องการละทิ้งถิ่นฐานออกไปอยู่นอกพื้นที่กันหมดแล้ว
