เอเอฟพี - หน่วยข่าวกรองรัสเซียตั้งข้อสงสัยว่า อุบัติเหตุเครื่องบิน ซูคอย ซูเปอร์เจ็ต-100 ตกในเขตภูเขาของอินโดนีเซียระหว่างทำการบินสาธิต อาจเกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ หนังสือพิมพ์รัสเซียหลายฉบับรายงาน วันนี้(24)
หนังสือพิมพ์ กอมโซโมลสกายา ปราฟดา ลงบทความพิเศษเรื่อง “อุบัติเหตุ ซูเปอร์เจ็ต เกี่ยวกับอเมริกาหรือไม่?” พร้อมอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ซึ่งระบุว่า คู่แข่งด้านการบินของรัสเซียล้วนปรารถนาให้เครื่องบินโดยสารรุ่นใหม่นี้ประสบความล้มเหลว
“เรากำลังสืบสวนทฤษฎีที่ว่า มันอาจเป็นแผนทำลายอุตสาหกรรมการบิน” เจ้าหน้าที่ข่าวกรองทหารคนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์
ซูคอย ซูเปอร์เจ็ต-100 เป็นเครื่องบินโดยสารรุ่นใหม่ล่าสุดที่รัสเซียพัฒนาขึ้นหลังสหภาพโซเวียตล่มสลาย และเป็นความหวังที่จะทำให้อุตสาหกรรมการบินแดนหมีขาวกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง
เครื่องบินลำนี้ประสบอุบัติเหตุชนภูเขาทางตอนใต้ของกรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ระหว่างเดินสายโชว์ศักยภาพในเอเชีย ซึ่งส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 45 คนเสียชีวิตทั้งหมด
ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่และสื่อของรัสเซียมักสร้างทฤษฎีให้โศกนาฎกรรมหรืออุบัติเหตุครั้งใหญ่ๆ เป็นแผนโจมตีของต่างชาติ
ก่อนหน้านี้ ผู้บัญชาการทหารเรือรัสเซียคนหนึ่งออกมากล่าวโทษกองทัพเรือสหรัฐฯว่าจมเรือดำน้ำนิวเคลียร์ “เคิร์สก์” (Kursk) ของรัสเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2000 ซึ่งส่งผลให้ลูกเรือเสียชีวิตไป 118 ราย เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีเรือรบของสหรัฐฯหลายลำแล่นอยู่ในทะเลเบเรนต์ส ซึ่งเป็นสถานที่ซ้อมรบ
ยูรี โกเตฟ อดีตผู้อำนวยการองค์การวิจัยอวกาศของรัสเซีย ก็เคยกล่าวในทำนองว่า ยานสำรวจดาวอังคารที่ส่งขึ้นไปไม่พ้นวงโคจรของโลก เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา อาจถูกสัญญาณเรดาร์ของสหรัฐฯรบกวน
เจ้าหน้าที่ข่าวกรองบอกกับหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ว่า หน่วยงาน GRU ของเขา “เฝ้าจับตากิจกรรมของกองทัพอากาศสหรัฐฯในสนามบินจาการ์ตามานานแล้ว”
“เราทราบว่าพวกเขามีเทคโนโลยีพิเศษ (ซึ่งเราก็มี) ซึ่งสามารถตัดสัญญาณจากภาคพื้นดิน หรือรบกวนการทำงานของเครื่องอ่านพารามิเตอร์ได้... บางทีนี่อาจจะเป็น “สาเหตุที่แท้จริง” ของอุบัติเหตุครั้งนี้ก็เป็นได้”