ทูตสหรัฐฯ ประจำอิสราเอลแย้ม แผนใช้กำลังทหารโจมตีอิหร่าน “พร้อมแล้ว”

รอยเตอร์ - แผนการโจมตีอิหร่านด้วยกำลังทางทหารนั้นพร้อมแล้ว และเป็นทางเลือกที่สามารถใช้ได้อย่างเต็มที่ ทูตสหรัฐฯ ประจำอิสราเอลเผย ไม่กี่วันก่อนหน้าที่เตหะรานจะฟื้นการเจรจากับชาติมหาอำนาจ
ซึ่งระแวงในความพยายามพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

สหรัฐฯ ก็เหมือนกับอิสราเอล ที่บอกว่า การใช้กำลังทางทหารจะเป็นทางเลือกสุดท้ายในการป้องกันไม่ให้อิหร่านใช้ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะในการผลิตระเบิด ทั้งที่อิหร่านยืนกรานมาตลอดว่าโครงการนิวเคลียร์ของตนมีวัตถุประสงค์ทางด้านพลเรือนเท่านั้น

“คงดีกว่าที่จะแก้ปัญหานี้ด้วยการทูต และใช้วิธีการกดดัน มากกว่าใช้กำลังทหาร” แดน ชาพิโร ทูตสหรัฐฯ กล่าวถึงประเด็นอิหร่าน ผ่านสถานีวิทยุของกองทัพอิสราเอล ที่ออกอากาศในวันนี้ (17)

“แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทางเลือกนั้นไม่สามารถนำมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ไม่เพียงแค่ใช้ได้เท่านั้น แต่ยังพร้อมแล้วด้วย การวางแผนที่จำเป็นก็เสร็จสิ้นเพื่อให้แน่ใจว่าพร้อม” ชาพิโรเสริม โดยสถานีวิทยุอาร์มี เรดิโอระบุว่าเขาพูดเอาไว้ในวันอังคาร (15)

สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน และเยอรมนี ใช้มาตรการคว่ำบาตร และการเจรจา เพื่อพยายามโน้มน้าวให้อิหร่านระงับโครงการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ซึ่งสามารถผลิตเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเตาปฏิกรณ์ปรมาณู เป็นไอโซโทปทางการแพทย์ และหากมีค่าความบริสุทธิ์สูงกว่านั้นก็สามารถเป็นวัตถุดิบผลิตหัวรบนิวเคลียร์ได้

สำหรับการเจรจารอบใหม่เพิ่งฟื้นขึ้นในกรุงอิสตันบูลเมื่อเดือนที่ผ่านมา และจะเริ่มอีกครั้งในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ ที่กรุงแบกแดด

อิสราเอล ซึ่งได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่าเป็นประเทศเดียวในตะวันออกกลางที่มีอาวุธปรมาณู รู้สึกเป็นอันตรายที่ศัตรูตลอดกาลอย่างอิหร่านจะมีการเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์ และเปรยว่าอาจต้องเกิดสงคราม

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่า สหรัฐฯ เพียงประเทศเดียวก็สามารถใช้กำลังทหารสร้างความเสียหายให้กับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้อย่างถาวร

ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ชาพิโรเคยบอกกับหนังสือพิมพ์ยิวฉบับหนึ่งว่า สหรัฐฯ รับรองว่าการใช้กำลังทางทหารเป็นทางเลือกที่พร้อม และใช้ได้ทันทีที่ประธานาธิบดีตัดสินใจสั่งการ