xs
xsm
sm
md
lg

จีน-US คลี่คลายกรณี “ทนายตาบอด” แม้ปักกิ่งจวกมะกันที่เข้ามาแทรกแซง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เฉิน กวงเฉิง (ซ้าย) นักเคลื่อนไหวผู้ตาบอดชาวจีน ถูกถ่ายภาพขณะนั่งบนรถเข็นที่มีพยาบาลผู้หนึ่งกำลังเข็นอยู่ ณ โรงพยาบาลเฉาหยาง ในกรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ(2) เจ้าหน้าที่สหรัฐฯระบุว่า ทางการจีนยินยอมที่จะโยกย้าย เฉิน ได้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยภายในประเทศ รวมทั้งได้ศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย
เอเจนซีส์ - เฉินกวงเฉิง นักเคลื่อนไหวผู้ตาบอดชาวจีน ได้ตัดสินใจออกจากสถานทูตอเมริกันแล้วเมื่อวันพุธ (2) หลังจากซ่อนตัวอยู่ 6 วัน แม้ในตอนแรกกระทรวงการต่างประเทศจีนออกคำแถลงประณามสหรัฐฯ ดุเดือด ทว่า สุดท้ายทั้งสองฝ่ายสามารถหาข้อยุติได้แบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นั่นคือปักกิ่งยอมย้ายเฉิงไปอยู่ในที่ปลอดภัยและเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยได้

ไม่กี่ชั่วโมง หลังจากฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางถึงปักกิ่งในวันพุธ (2) อเมริกายอมเปิดปากกรณีเฉิงหลังจากอุบเงียบมาเกือบสัปดาห์ โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงเปิดเผยว่า เฉินเดินทางด้วยรถยนต์ออกจากสถานทูตอเมริกันพร้อมกับแกรี ล็อก เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เพื่อรับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล

ทั้งนี้ เฉิน ทนายความตาบอดซึ่งเปิดโปงด้านมืดของนโยบายลูกคนเดียวของรัฐบาลจีน ที่มีการบังคับทำแท้งและทำหมัน ได้หลบหนีจากการถูกควบคุมตัวในบ้านพักของตนเองตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน เฉินเล่าว่า ตนและครอบครัวถูกทุบตีอย่างรุนแรงหลังจากที่เขาพ้นโทษจำคุกออกมาในปี 2010

ในวิดีโอที่บันทึกหลังการหลบหนีและเผยแพร่ทางออนไลน์ เฉินขอให้นายกรัฐมนตรีเวินเจียเป่า ลงโทษเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ทำให้ตนและครอบครัวต้องทุกข์ทรมาน

แรกทีเดียว กระทรวงต่างประเทศจีนแสดงปฏิกิริยาโกรธเกรี้ยว

“ต้องกล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ นำตัวเฉินกัวเฉิงที่เป็นพลเมืองจีนเข้าสู่สถานเอกอัครราชทูตด้วยวิธีการที่ไม่ปกติ และขอบอกว่า จีนไม่พอใจอย่างยิ่งในเรื่องนี้

“วิธีการของสหรัฐฯ เป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน และจีนไม่สามารถยอมรับได้โดยสิ้นเชิง จีนจึงเรียกร้องให้สหรัฐฯ ขอโทษ ตรวจสอบกรณีนี้ และลงโทษผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบ รวมทั้งรับประกันว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก” หลิว เว่ยหมิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนแถลง

กระนั้น เจ้าหน้าที่อเมริกันเผยว่า ทั้งสองฝ่ายร่วมกันหาทางออกกรณีเฉิง และว่าทนายตาบอดผู้นี้ไม่เคยต้องการทิ้งบ้านเกิดเพื่อลี้ภัยไปยังสหรัฐฯ หรือประเทศอื่นใด

สุดท้ายทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นั่นคือเฉินได้รับอนุญาตให้ย้ายไปยัง “สถานที่ปลอดภัย” และสามารถเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยได้

เจ้าหน้าที่อเมริกันสำทับว่า นี่เป็นกรณีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์พิเศษ และสหรัฐฯ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

ขณะที่ คลินตันได้ออกคำแถลงว่า รัฐบาลสหรัฐฯและประชาชนอเมริกันมีพันธะผูกมัดที่ยังจะเกี่ยวข้องพัวพันกับกรณีของ เฉิน และครอบครัวของเขา ตลอดช่วงหลายๆ วัน หลายๆ สัปดาห์ และหลายๆ ปีข้างหน้านี้

ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ฝ่ายจีนยังจะเดินหน้าบีบคั้นให้สหรัฐฯต้องขอโทษดังที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแดนมังกรแถลงหรือไม่

การหาทางออกอันชัดเจนให้แก่กรณีของเฉิน มีขึ้นก่อนการเจรจายุทธศาสตร์และเศรษฐกิจสหรัฐฯ-จีนเพียงวันเดียว โดยที่ทั้งสองประเทศต่างตระหนักถึงผลกระทบจากกรณีนี้ที่จะเกิดกับการเมืองภายในประเทศ เนื่องจากสหรัฐฯ จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีช่วงปลายปี เช่นเดียวกับการผลัดผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลกันว่า ประเด็นเฉินหนีไปหลบซ่อนในสถานทูตอเมริกันอาจบดบังความสำคัญของวาระการประชุมปกติ

สหรัฐฯ นั้นหวังว่า การเจรจานี้จะส่งเสริมให้จีนให้ความร่วมมือมากขึ้นทั้งด้านการค้า ตลอดจนถึงประเด็นอิหร่าน ซีเรีย เกาหลีเหนือ และข้อพิพาทระหว่างประเทศอื่นๆ

ความสัมพันธ์สองประเทศอาจปีนเกลียวอย่างง่ายดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์ก็ต้องจัดการเรื่องอื้อฉาวของผู้นำระดับสูงอย่าง ป๋อ ซีไหล อดีตสมาชิกคณะกรรมการกรมการเมือง และอดีตเลขาธิการพรรคสาขามหานครฉงชิ่ง ตลอดจนการสืบทอดอำนาจสู่คณะผู้นำรุ่นต่อไป

ก่อนออกเดินทางสู่ปักกิ่งเมื่อวันจันทร์ (30 เม.ย.) คลินตันสัญญาว่า จะกดดันจีนเรื่องสิทธิมนุษยชน อันเป็นประเด็นที่เป็นที่ถกเถียงระหว่างสองประเทศมากว่า 2 ทศวรรษนับจากเหตุการณ์ปราบผู้ประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินปี 1989

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วอชิงตันก็ได้เข้าไปพัวพันกับความวุ่นวายทางการเมืองของแดนมังกร สืบเนื่องจาก หวัง ลี่จิว์น รองนายกเทศมนตรีนครฉงชิ่ง ไดหนีไปซ่อนตัวในสถานกงสุลอเมริกัน และประณาม ป๋อซีไหล รวมทั้งกล่าวหา กู่ ไคไหล ภรรยาของป๋อ ว่าสังหาร นีล เฮย์วูด นักธุรกิจชาวอังกฤษ
กำลังโหลดความคิดเห็น