เอเยนซี/เอเอฟพี - ทหารอเมริกันและทหารฟิลิปปินส์จำนวนเกือบ 7,000 คนเริ่มการซ้อมรบทางนาวีครั้งใหญ่ประจำปีเป็นเวลา 12 วันเมื่อวันจันทร์ (16) ท่ามกลางการประจันหน้ากันระหว่างฟิลิปปินส์กับจีนในกรณีพิพาทเหนือดินแดนในทะเลจีนใต้ ขณะที่สหรัฐฯ ก็กำลังแสวงหาทางฟื้นฟูอิทธิพลของตนทั่วทั้งเอเชีย-แปซิฟิก
ในพิธีเปิดการซ้อมรบคราวนี้ที่มีชื่อรหัสว่า “บาลิคาตัน 2012” (บาลิคาตัน เป็นภาษาตากาล็อกแปลว่า “เคียงบ่าเคียงไหล่”) ผู้บัญชาการทหารฟิลิปปินส์ เจสซี เดลโลซา แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อจีนออกมาตรงๆ แต่คำปราศรัยของเขาก็ย้ำว่า การประลองยุทธ์นี้คือการเน้นย้ำว่าสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อพันธมิตรผู้อ่อนแอกว่าของตน ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญยิ่ง
ทั้งจีนและไต้หวันต่างอ้างมานานแล้วว่า เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำแทบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ แม้กระทั่งในบริเวณที่อยู่ใกล้ๆ กับชายฝั่งของฟิลิปปินส์, เวียดนาม, บรูไหน, และมาเลเซีย อย่างไรก็ตาม การที่ชาติเหล่านี้อ้างอธิปไตยเหนือดินแดนทับซ้อนกัน ทำให้อาณาบริเวณนี้มีศักยภาพที่จะกลายเป็นจุดปะทุขัดแย้งในทางทหาร
ขณะที่ในไม่กี่สิบปีหลังมานี้ มีการใช้ความพยายามทางการทูต เพื่อไม่ให้ข้อพิพาทชิงกรรมสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ --ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญยิ่งยวดสำหรับการค้าของโลก ตลอดจนเชื่อกันว่ามีทรัพยากรด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอยู่อย่างมหาศาล— บานปลายกลายเป็นความรุนแรง แต่ทั้งฟิลิปปินส์และเวียดนามต่างกล่าวในปีที่แล้วว่า จีนกำลังมีท่าทีก้าวร้าวมากขึ้นในการยืนยันการกล่าวอ้างของตน
ฟิลิปปินส์นั้นกล่าวหาว่าได้เกิดกรณีต่างๆ ดังเช่น เรือรบจีนได้ยิงปืนเตือนเรือประมงฟิลิปปินส์ที่เข้าสู่บริเวณน่านน้ำที่พิพาทกัน รวมทั้งรบกวนการปฏิบัติงานของเรือสำรวจน้ำมันของฝ่ายแดนตากาล็อก ตลอดจนได้วางแนวทุ่นหลักหมายในน่านน้ำใกล้ๆ กับแผ่นดินของฟิลิปปินส์
ความขัดแย้งพุ่งแรงขึ้นมาอีกครั้งในสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อฟิลิปปินส์ส่งเรือรบลำใหญ่ที่สุดของตน ซึ่งเป็นเรือพิฆาตเก่าของกองกำลังรักษาชายฝั่งอเมริกันที่ปลดประจำการแล้วยกให้แก่กองทัพเรือตากาล็อก แล่นไปยังบริเวณกองหินโสโครกเล็กๆ ที่มีชื่อว่า สคาร์โบโร โชล ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะลูซอน ที่เป็นเกาะใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ ไปทางตะวันตกราว 230 กิโลเมตร ภายหลังจากพบเห็นเรือประมงจีนรวม 8 ลำ
ปรากฏว่าจีนก็ได้ทยอยส่งเรือตรวจการณ์ 3 ลำไปหยุดยั้งไม่ให้เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์เข้าจับกุมชาวประมงแดนมังกรเหล่านี้ และกรณีพิพาทนี้ยิ่งเพิ่มความตึงเครียดเมื่อทั้งสองประเทศต่างยื่นประท้วงกันและกัน และต่างประณามกล่าวหาอีกฝ่ายหนึ่งว่าละเมิดอธิปไตยแห่งดินแดนของตน
ขณะที่เรือประมงจีนเหล่านั้นได้ออกไปจาก สคาร์โบโร โชล แล้วในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ทั้งสองประเทศยังคงยืนยันว่ามีอำนาจอธิปไตยเหนือบริเวณดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ฝ่ายฟิลิปปินส์ต่างแสดงความหวังว่า การซ้อมรบกับอเมริกันคราวนี้ซึ่งมีกองกำลังของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมรวมแล้วเกือบ 7,000 คน อีกทั้งยังจะมีการสมมติสถานการณ์การยกกำลังบุกโจมตีในบริเวณทะเลจีนใต้เป็นครั้งแรกด้วยนั้น จะมีการจัดให้บ่อยครั้งขึ้นอีก
“เราจำเป็นต้องได้สหรัฐฯ มาช่วยสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงปลอดภัย” นายทหารบกฟิลิปปินส์ยศพลตรีผู้หนึ่งกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ โดยขอให้ช่วยสงวนนาม
พลตรีฟิลิปปินส์ผู้นี้กล่าวต่อไปว่า ก่อนที่รัฐสภาฟิลิปปินส์จะลงมติให้สหรัฐฯ ถอนฐานทัพออกไปทั้งหมดในปี 1992 นั้น พวกเรือประมงจีนไม่เคยเพ่นพ่านมาใกล้ๆ สคาร์โบโร โชล เลย ทั้งนี้อ่าวซูบิกของเกาะลูซอนนั้น เคยเป็นฐานทัพเรือที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ นอกอเมริกาทีเดียว
“แต่หลังจากอเมริกันไปแล้ว จีนก็ได้ก่อสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นบนเกาะปะการัง มิสชีฟ รีฟ และชาวประมงจีนก็กล้ามากขึ้นและเข้ามาที่สคาร์โบโรอย่างคึกคัก” เขาบอก “ผมไม่ต้องการตื่นนอนขึ้นมาในเช้าวันหนึ่งแล้วพบว่ามีสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆ ของจีนอยู่ที่นั่นแล้ว”