เอเอฟพี - ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเรียบๆ ในปีนี้ ก่อนจะเริ่มฟื้นตัวในปี 2013 ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ระบุในรายงานประจำภูมิภาค ซึ่งเผยแพร่วันนี้ (11)
รายงานซึ่งเสนอภาพรวมการพัฒนาในเอเชียปี 2012 ชี้ว่า ภูมิภาคนี้กำลังก้าวไปสู่ “การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว” เนื่องจากรัฐบาลหันมากระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศแทนการส่งออก ซึ่งประสบปัญหาจากความต้องการในตลาดยุโรปที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาเตือนว่า ความมั่งคั่งในเอเชียอาจนำไปสู่ปัญหาความเหลื่อมล้ำและการกระจายรายได้ที่ไม่เท่าเทียม ซึ่งประชากรด้อยโอกาสอาจถูกดูดเข้าสู่ “วงจรอุบาทว์” แห่งความยากจน และไม่ได้รับการใส่ใจเท่าที่ควรจากภาครัฐ
จีดีพีสำหรับทั้งภูมิภาคจะลดลงจาก 7.2% ในปีแล้ว มาอยู่ที่ 6.9% ในปีนี้ ก่อนจะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 7.3% ในปี 2013
“แม้บรรยากาศการเงินทั่วโลกจะอ่อนแอ แต่เอเชียยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไป” รายงานของเอดีบีระบุ
“เศรษฐกิจเอเชียได้รับแรงกระตุ้นจากอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งในปี 2011 ซึ่งแนวโน้มเช่นนี้ต้องคงอยู่ต่อไป ในขณะที่อุปสงค์การส่งออกไปยังประเทศอุตสาหกรรมอย่าง สหรัฐฯ, ยูโรโซน และญี่ปุ่น จะอ่อนแอลง”
แม้เศรษฐกิจในปีนี้จะซบเซาลงกว่าปีก่อนๆ แต่โดยภาพรวมแล้ว เอเชียจะยังเติบโตได้มากกว่ายุโรป, สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะโตได้เพียง 1.1% ในปีนี้ และ 1.3% ในปี 2013
“ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจยูโรโซนและการค้าที่ตกต่ำทั่วโลก เป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในภาพรวม” ชางยอง รี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากเอดีบีระบุ
“ขณะเดียวกัน ประเทศในเอเชียก็เริ่มเปิดกว้างสู่ตลาดใหม่ๆ การบริโภคส่วนบุคคลมีแนวโน้มสูงขึ้น อีกทั้งภูมิภาคนี้ก็มีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจกับยูโรโซนอย่างจำกัด ซึ่งช่วยให้เศรษฐกิจยังเติบโตต่อไปได้”
การบริโภคในประเทศที่คึกคักขึ้นเป็นสัญญาณชัดเจนที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียที่มีอัตราการออมสูง สังเกตได้จากดุลบัญชีเดินสะพัดในภูมิภาคที่เกินมาเพียง 2.6% ของจีดีพี จากเดิมที่สูงถึง 4% ในปี 2010
เนื้อหารายงานฉบับนี้ครอบคลุมเกือบทุกประเทศในเอเชีย หรือเทียบเท่าประชากรร้อยละ 80 ของทั้งภูมิภาค ยกเว้น ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, เกาหลีใต้ และไต้หวัน
