เดอะ โคเรีย เฮรัลด์ - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย และประธานาธิบดี ลี เมียงบัค แห่งเกาหลีใต้ ร่วมกันเรียกร้องให้เกาหลีเหนือ ระงับแผนการปล่อยจรวดพิสัยไกล ซึ่งอ้างว่าเป็นการนำดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร โดยผู้นำทั้งสอง ระบุว่า การกระทำดังกล่าวยิ่งเป็นการบั่นทอนสันติภาพในภูมิภาค และละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หนังสือพิมพ์เดอะ โคเรีย เฮรัลด์ รายงานวันนี้ (25)
ข้อเรียกร้องนี้มีขึ้นหลังการหารือทวิภาคี หลังจากคณะผู้นำไทยเดินทางถึงกรุงโซล เมื่อวันเสาร์ (24) เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 มีนาคม
“เรามีความเห็นตรงกันว่า แผนปล่อยจรวดพิสัยไกลของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค เกาหลีเหนือควรยุติแผนปล่อยจรวด และเคารพมติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น” ประธานาธิบดี ลี กล่าวระหว่างการแถลงข่าวพร้อมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์
ผู้นำเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเห็นตรงกับเขาว่าการปล่อยจรวดดังกล่าวเป็น “ความขัดแย้งในตัวเอง” สำหรับประเทศที่ประชาชนกำลังอดอยาก แต่รัฐบาลกลับดำเนินโครงการที่ผลาญงบประมาณมูลค่ามหาศาล
ทั้งนี้ เวทีประชุมผู้นำโลกว่าด้วยปัญหานิวเคลียร์นี้มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดต่อแผนของเกาหลีเหนือ ซึ่งประกาศว่าจะปล่อยจรวดพิสัยไกลในเดือนหน้า เพื่อนำดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร ข้ออ้างเดิมที่เกาหลีเหนือเคยใช้ลอบทดสอบยิงขีปนาวุธมาแล้วในอดีต
ในประเด็นความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี ผู้นำเกาหลีใต้และไทยเห็นชอบที่จะกระชับความร่วมมือด้านกลาโหม และยกระดับความสัมพันธ์เป็น “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” ในอนาคตอันใกล้ ถ้อยแถลงร่วมระบุ
ระหว่างการหารือนอกรอบ วานนี้ รัฐมนตรีกลาโหมของไทย และเกาหลีใต้ ยังได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ซึ่งวางกรอบเกี่ยวกับการแลกปลี่ยนด้านการทหาร
ผู้นำเกาหลีใต้ยังตกลงที่จะสนับสนุนการสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในประเทศไทย โดยถ้อยแถลงร่วมระบุว่า มีการลงนามเอ็มโอยูว่าด้วยความร่วมมือทางเทคนิคในการจัดการน้ำเช่นกัน
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้แสดงความสนโครงการบูรณะแม่น้ำ 4 สาย เพื่อป้องกันอุทกภัยตามแผนของรัฐบาลโซลเป็นพิเศษ โดยคณะผู้นำไทยมีกำหนดเยี่ยมชมโครงการดังกล่าวระหว่างการปฏิบัติภารกิจในเกาหลีใต้
นายกฯ หญิงของไทยยังได้กล่าวแสดงความขอบคุณต่อประธานาธิบดี ลี จากกรณีที่เกาหลีใต้ส่งความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ขณะที่ไทยประสบปัญหาอุทกภัยใหญ่เมื่อปีที่แล้ว และยังชื่นชมผู้นำโสมขาวที่เสนอโครงการ “low carbon, green growth” ซึ่งมุ่งมั่นจะพัฒนาเศรษฐกิจด้วยอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม