xs
xsm
sm
md
lg

“โอบามา” เรียกร้องจีนคุมโสมแดง ฮึ่ม “เปียงยาง” ยิงจรวดเจอหนักแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ (ที่สองจากซ้าย) กำลังใช้กล้องส่องทางไกลมองดูพื้นที่ของเกาหลีเหนือ ระหว่างไปเยือนเขตปลอดทหารที่บริเวณพรมแดนของสองเกาหลีวันนี้(25)
เอเอฟพี/เอเจนซี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ เรียกร้องต่อจีนเมื่อวันอาทิตย์ (25) ให้ใช้อิทธิพลดึงรั้งเกาหลีเหนือ แทนที่จะ “หลับหูหลับตา” นิ่งเฉยต่อการที่โสมแดงแสดงท่าทีท้าทายนานาชาติในเรื่องนิวเคลียร์ พร้อมกันนั้นประมุขอเมริกันยังคำรามว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงยิ่งขึ้น ถ้าหากเกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าแผนการส่งดาวเทียมที่ถูกระแวงว่าเป็นการแอบทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลในสัปดาห์หน้า

“เกาหลีเหนือจะไม่ได้อะไรจากการคุกคามหรือการยั่วยุทั้งหลาย” โอบามากล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ภายหลังที่เขาไปเยือนพรมแดนติดต่อระหว่างสองเกาหลี ซึ่งยังคงมีกำลังทหารและยุทโธปกรณ์เตรียมพร้อมรบเต็มที่เหมือนกับอยู่ในยุคสงครามเย็น

ถ้าโสมแดงยังคงยิงจรวดตามแผนการ ก็รังแต่จะทำให้ตนเองยิ่งโดดเดี่ยวมากขึ้นไปอีก ในเวลาที่เกาหลีเหนือจะต้องแสดงให้เห็นความจริงใจ หากต้องการให้การเจรจา 6 ฝ่ายเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านอาหารแลกเปลี่ยนกับการระงับโครงการอาวุธของโสมแดง ซึ่งเดี๋ยวเดินหน้าเดี๋ยวหยุดชะงักมาหลายยกแล้ว สามารถเริ่มต้นขึ้นมาอีกคำรบหนึ่ง โอบามากล่าวเช่นนี้ต่อที่ประชุมแถลงข่าวในเมืองหลวงของเกาหลีใต้ โดยที่มีประธานาธิบดีลีเมียงบัค ของโสมขาว ยืนเคียงข้าง

ทั้งเกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ต่างระบุว่า แผนการยิงจรวดส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรตามที่เกาหลีเหนืออ้างนั้น แท้ที่จริงคือการทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกล ซึ่งเป็นการละเมิดคำมั่นสัญญาล่าสุดที่ให้ไว้แก่นานาประเทศ

โอบามากล่าวด้วยว่า การกระทำต่างๆ ของปักกิ่งที่เป็น “การให้รางวัลแก่ความประพฤติเลวๆ และหลับหูหลับตาไม่สนใจต่อการยั่วยุอย่างจงใจ” ของเปียงยางนั้น เห็นได้ชัดเจนว่าไม่ได้ผล และเขาจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาหารืออย่างแน่นอน ในระหว่างการพบปะเจรจากับประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ของจีนในกรุงโซลวันจันทร์(26)นี้ ทั้งนี้ โอบามา, หู และผู้นำและผู้แทนชาติต่างๆ กว่า 50 ประเทศ เดินทางมาที่เมืองหลวงของเกาหลีใต้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดด้านความมั่นคงทางนิวเคลียร์ วันที่ 26-27 นี้

“ผมเชื่อว่าจีนมีความจริงใจมากที่บอกว่า ไม่ต้องการเห็นเกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์” ผู้นำสหรัฐฯกล่าวต่อ “แต่จีนจะต้องกระทำการเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่เรื่องนี้ ในวิถีทางที่ยั่งยืนยิ่งกว่านี้”

คำพูดเช่นนี้ถือเป็นข้อความอันแหลมคมที่สุดเท่าที่โอบามาวิจารณ์แดนมังกรในที่สาธารณะ เพื่อเร่งรัดให้ปักกิ่งใช้อิทธิพลบารมีของตนที่มีต่อเปียงยาง อีกทั้งยังเป็นการสอดคล้องกับเสียงเรียกร้องในช่วงหลังๆ นี้ที่ให้จีนแสดงความรับผิดชอบต่อกิจการของโลกมากขึ้น ในฐานะที่เป็นมหาอำนาจที่กำลังก้าวผงาดขึ้นมา

ในการแถลงข่าวร่วมภายหลังการพบปะหารือกันคราวนี้ ประธานาธิบดีลีของเกาหลีใต้ก็กล่าวว่า “ประธานาธิบดีโอบามาและผมต่างเห็นพ้องกันว่าจะต้องตอบโต้อย่างเด็ดขาดจริงจังต่อการยั่วยุและการคุกคามใดๆ ก็ตามจากฝ่ายเหนือ และจะส่งเสริมเพิ่มพูนการเตรียมพร้อมอย่างหนักแน่นในเรื่องการป้องกันร่วมกันระหว่างเกาหลีใต้-สหรัฐฯ ต่อไป”

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน โอบามาได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปที่ค่ายทหารโบนิฟาส ที่อยู่ใกล้พรมแดนเกาหลีใต้-เหนือ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวกับทหารอเมริกันส่วนหนึ่งในค่ายว่า พวกเขาเป็นพรมแดนแห่งเสรีภาพและเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เกาหลีใต้มั่งคั่ง

ทั้งนี้ ทำเนียบขาวกล่าวว่า การเยือนพรมแดนสองเกาหลี รวมทั้งเขตปลอดทหาร (ดีเอ็มแซด) ของโอบามามีจุดประสงค์เพื่อแสดงความชื่นชมทหารหาญ และย้ำพันธะสัญญาในการรักษาความมั่นคงคาบสมุทรเกาหลี รวมทั้งยืนยันความเป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งระหว่างวอชิงตันกับโซล

นอกจากนี้ ข่าวทีวีที่แสดงภาพโอบามาเยือนเขตปลอดทหาร อาจช่วยส่งเสริมสถานะจอมทัพของโอบามาในปีที่จะมีการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯสมัยต่อไป และหักล้างข้อกล่าวหาของรีพับลิกันที่ว่า โอบามาไม่กร้าวพอกับศัตรูของอเมริกา

ระหว่างเยือนค่ายทหารดังกล่าว โอบามายืนบนหอสังเกตการณ์ที่มีฉากกันกระสุน ส่องกล้องทางไกลมองลึกเข้าไปในดินแดนเกาหลีเหนือและพูดคุยกับนายทหารอเมริกัน

ธงเกาหลีเหนือขนาดใหญ่ที่หมู่บ้านของเกาหลีเหนือในดีเอ็มแซดลดลงครึ่งเสาเพื่อแสดงความอาลัยในวาระครบ 100 วันอสัญกรรมของอดีตผู้นำคิมจองอิล ที่ทางการเปียงยางจัดพิธีรำลึกทั่วประเทศ

ความตึงเครียดยังไม่เจือจางลงภายใต้ผู้นำใหม่วัยหนุ่มที่เป็นบุตรชายของคิมคือ คิมจองอึน

ข้อตกลงกับสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาเมื่อเดือนที่แล้ว ที่ระบุว่าเกาหลีเหนือจะระงับโครงการนิวเคลียร์บางส่วนแลกกับความช่วยเหลือด้านอาหาร ทำให้เกิดความหวังระคนเคลือบแคลงว่าความตึงเครียดอาจบรรเทาลง

ทว่า หลังจากนั้นไม่ถึง 3 สัปดาห์ เกาหลีเหนือประกาศแผนยิงดาวเทียมระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน ซึ่งวอชิงตันมองว่าละเมิดข้อตกลงเมื่อเดือนที่แล้ว รวมถึงมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น)

สหรัฐฯ และชาติอื่นๆ เชื่อว่า การปล่อยดาวเทียมเป็นแผนการบังหน้าการทดสอบขีปนาวุธที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ในอนาคต ทั้งนี้ เปียงยางเคยทดสอบอาวุธนิวเคลียร์มาแล้วในปี 206 และ 2009

ทว่า เกาหลีเหนือค้านว่า แต่ละปีมีการปล่อยดาวเทียมเพื่อสันติหลายสิบดวงทั่วโลก และขู่ตอบโต้ความพยายามใดๆ ที่จะขัดขวางการปล่อยดาวเทียมของตน พร้อมยืนยันว่าแผนการนี้ไม่ได้ละเมิดข้อตกลงกับสหรัฐฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น