เอเจนซี - แฉทหารอเมริกันมือฆ่าโหด 16 ศพในอัฟกานิสถาน ออกรบโดยไม่เคยชดใช้ค่าเสียหาย 1.5 ล้านดอลลาร์ จากคดีฉ้อโกงลูกค้าสูงวัยเมื่อตอนที่เขายังมีอาชีพเป็นโบรกเกอร์ ซ้ำได้รับการคุ้มครองไม่ถูกเร่งรัดในเรื่องนี้ ตราบเท่าประจำการอยู่ในกองทัพ
บันทึกของหน่วยงานกกำกับตรวจสอบอุตสาหกรรมการเงินของสหรัฐฯ ระบุว่า ก่อนเข้ารับราชการทหารในเดือนพฤศจิกายน 2001 โรเบิร์ต เบลส์ ทำงานกับบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งที่เกี่ยวดองกันอย่างลึกซึ้ง และเป็นเครือข่ายที่ถูกเจ้าหน้าที่ตักเตือนลงโทษซ้ำแล้วซ้ำอีก
เบลส์เข้าร่วมกองทัพ 18 เดือนหลังจากนักลงทุนผู้หนึ่งในมลรัฐโอไฮโอ ร้องเรียนต่อคณะอนุญาโตตุลาการว่า เบลส์, บริษัทโบรกเกอร์ต้นสังกัด, และเจ้าของบริษัทโบรกเกอร์ดังกล่าว ได้ทำการซื้อขายหุ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต, ละเมิดสัญญา, และกระทำผิดอีกหลายกรณี ปรากฏว่าใน ปี 2003 คณะอนุญาโตตุลาการมีคำสั่งให้จำเลยทั้งสามจ่ายเงินให้นักลงทุนผู้นั้น 1.2 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงค่าเสียหายจากการดำเนินการที่ประสงค์ร้าย แล้วบวกด้วยค่าทนายอีก 216,500 ดอลลาร์
แต่เบลส์ไม่เคยไปปรากฏตัวต่อคณะอนุญาโตตุลาการ และไม่เคยว่าจ้างทนายสู้ข้อกล่าวหา
เอิร์ล ฟรอสต์ ทนายความของแกรี ลิบชเนอร์ เหยื่อของเบลส์ บอกว่า ลูกความของตนไม่เคยได้รับเงินตามที่คณะอนุญาโตตุลาการของสมาคมผู้ค้าหลักทรัพย์แห่งชาติ (NASD) มีคำวินิจฉัยออกมา และตามตัวเบลส์ไม่พบ
ทั้งนี้เนื่องจากขณะนั้นเอง เบลส์หันไปเป็นทหาร โดยที่ได้ออกไปประจำการในอิรัก 3 รอบ แล้วรอบที่ 4 ก็ถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจสู้รบในอัฟกานิสถานอีก
แต่ถึงหากเบลส์ถูกตามตัวเจอและถูกเหยื่อเร่งรัดให้จ่ายเงิน เขาก็จะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายอยู่ดี กล่าวคือ มีกฎหมายของสหรัฐฯที่ระบุว่า ทหารที่ประจำการอยู่ในกองทัพสามารถยื่นขอบรรเทาภาระจากพันธะทางการเงินที่คั่งค้างอยู่ได้ ตราบเท่าที่เขามีรายได้จากการเป็นทหารน้อยลงกว่าก่อนเข้ากองทัพ
ปัญหาทางการเงินทำให้ภาพของชายผู้ที่ถูกกล่าวหาว่า สังหารหมู่ผู้นี้ยิ่งซับซ้อนขึ้น ทั้งนี้ คาดว่า จ่าสิบตรีเบลส์จะถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมชาวอัฟกัน 16 รายเมื่อวันที่ 11 ที่ผ่านมาอย่างเป็นทางการ ภายในสัปดาห์นี้
จอห์น เฮนรี บราวน์ ทนายความของเบลส์ ไม่ยอมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตัดสินของ NASD บอกเพียงว่า ลูกความของเขาร่วมรบเพื่อปกป้องสหรัฐฯ ภายหลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2011
บันทึกจาก NASD และคณะกรรมการกำกับดูแลอุตสาหกรรมการเงิน (FINRA) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นมาแทนที่ NASD ระบุว่า เบลส์เริ่มต้นอาชีพในแวดวงการเงินในปี 1996 ที่แฮมิลตัน-ชี กรุ๊ป บริษัทหลักทรัพย์ในฟลอริดาที่ถูกขับออกจาก NASD ในปี 2001 และต้องจ่ายค่าปรับ 1.4 ล้านดอลลาร์จากการกระทำผิดหลายกรณี
โจเซฟ เดห์เนอร์ ทนายความในซินซินเนติที่เชี่ยวชาญคดีโบรกเกอร์และบริษัททุจริต ชี้ว่า แฮมิลตัน-ชีเป็นสถานที่บ่มเพาะการปั่นราคาหุ้น
บันทึกของ FINRA ยังระบุว่า มีโบรกเกอร์อย่างน้อย 3 คนที่ทำงานในที่เดียวกับเบลส์ช่วงสั้นๆ สารภาพความผิดในการละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลังจากที่เบลส์จากฟลอริดาไปทำงานในโอไฮโอ กับ ควอนตัม แคปิตอล บริษัทหลังนี้ก็เป็นเจ้าของแฮมิลตัน-ชี นั่นเอง
เบลส์ออกจากควอนตัมต้นปี 1998 เพื่อไปทำงานกับไมเคิล แพตเตอร์สัน ซึ่งจ้าของที่ใช้ชื่อเดียวกับบริษัท เคยทำงานกับเขาทั้งที่แฮมิลตัน-ชีและควอนตัม เบลส์อยู่ที่นั่นจนถึงปลายปี 1999 หลังจากนั้นเขาทำงานให้บริษัทโบรกเกอร์สองแห่งในโอไฮโอจนถึงปลายปี 2000
ทั้ง FINRA และคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์สาขาโอไฮโอไม่เคยสั่งพักงานเบลส์ที่ปล่อยให้ใบอนุญาตหมดอายุ โดยในทางปฏิบัตินั้น หากคำสั่งจ่ายค่าชดเชยของคณะอนุญาโตฯ ไม่ได้รับการดำเนินการภายใน 30 วัน FINRA สามารถสั่งพักงานโบรกเกอร์ และห้ามโบรกเกอร์รายนั้นไปทำงานในบริษัทอื่นระหว่างที่ถูกพักงาน