เอเอฟพี - ชายอิเหนาหัวใจหญิง ซึ่งเคยทำงานเป็นพี่เลี้ยงประธานาธิบดี บารัค โอบามา เมื่อช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 เผย ไม่เคยต้องการสิ่งใดจาก “แบร์รีตัวน้อย” เพียงหวังจะมีโอกาสพบหน้าอีกครั้ง
กองทัพผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังชุมชนแออัดทางฝั่งตะวันออกของกรุงจาการ์ตา เพื่อเยี่ยมบ้านของ ตุรดี วัย 66 ปี ผู้มีอาชีพซักเสื้อผ้า
“ฉันก็แค่คนธรรมดา เพียงแต่ช่วยดูแลเขาเท่านั้น ดังนั้น ฉันไม่เคยหวังอะไรจากแบร์รีเลย แค่หวังว่าจะได้เจอเขาอีกสักครั้ง แค่นั้นจริงๆ” ตุรดี ให้สัมภาษณ์ ท่ามกลางกลิ่นเหม็นของสิ่งปฏิกูลในลำคลองที่อยู่ติดกับบ้าน
อดีตพี่เลี้ยงคนนี้ยังมีความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับ โอบามา วัย 8 ขวบ ตลอดจน แอนน์ ดันแฮม มารดาชาวอเมริกันของเขา และ โลโล โซเอโตโร พ่อเลี้ยงชาวอินโดนีเซีย ซึ่งทุกคนต่างปฏิบัติต่อ ตุรดี เสมือนญาติ ตลอด 2 ปีที่เขาทำงานในบ้านย่านเม็นตังของกรุงจาการ์ตา
“เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะมาเยี่ยมฉันที่บ้านเช่าหลังนี้ และการจะไปพบเขาถึงอเมริกาก็เป็นได้แค่ฝัน หากพระเจ้าทรงประสงค์และด้วยความอดทนของเรา วันหนึ่งเราคงได้พบกัน” ตุรดี กล่าว
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่มีถ้อยแถลงใดๆ เกี่ยวกับพี่เลี้ยง โอบามา แต่เพื่อนบ้านบางคนที่ยังอาศัยอยู่บนถนนสายเดิมมาตั้งแต่ 40 ปีที่แล้ว บอกว่า พวกเขารู้จัก ตุรดี และยอมรับว่าเธอเป็นสาวประเภทสอง
ระหว่างที่ดูแลเด็กน้อย ซึ่งภายหลังกลับกลายเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐฯ ตุรดี พยายามปกปิดสถานะทางเพศของเธอ และไม่เคยสวมใส่เสื้อผ้าผู้หญิงต่อหน้า โอบามา เลย
“ฉันรู้สึกเป็นอิสระทุกครั้งที่ได้แต่งตัวเป็นผู้หญิง มันเหมือนถูกปล่อยออกจากคุก แต่เวลาที่อยู่กับ แบร์รี ฉันจะทำตัวเป็นผู้ชาย เพราะเขายังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจโลกของพวกเรา” ตุรดี กล่าว
แม้ โอบามา จะมีเพื่อนฝูงมากมายในโรงเรียน แต่เด็กเหล่านั้นก็ยังชอบล้อเลียนพี่เลี้ยงของเขาว่าเป็น “บันจี” (banci) ซึ่งเป็นคำหยาบในภาษาอินโดนีเซียที่ใช้เรียกสาวประเภทสอง
“เวลาที่ฉันไปรับเขาที่โรงเรียน เพื่อนของเขามักจะตะโกนล้อเลียนฉันว่า “บันจี บันจี” แต่ก็เขาไม่สนใจ และชวนฉันกลับบ้าน” ตุรดี เล่าถึงความหลัง พร้อมเผยว่า เธอขอให้เพื่อนสนิททุกคนเรียกเธอว่า “อีวี่” (Evie)
โอบามา ยังเคยถูกเพื่อนนักเรียนเย้ยหยัน เพราะมีร่างกายสูงใหญ่, ผมหยิก และผิวคล้ำ
“พอเล่นฟุตบอลแพ้ เด็กพวกนั้นก็มักจะหันมาล้อเขาว่า “แบร์รี นิโกร” แต่เขากลับหัวเราะและตอบไปว่า พวกเธอต้องยอมรับไม่ว่าจะแพ้หรือชนะเวลาเล่นเกม”
พี่เลี้ยงวัย 66 ปี บอกว่า รู้สึกภูมิใจในตัว โอบามา ซึ่งเป็นเพียง “เด็กผิวสีที่เกิดในครอบครัวคนธรรมดา แต่กลับได้เป็นถึงประธานาธิบดีของสหรัฐฯ”
เขายังเชื่อว่า โอบามา จะช่วยขจัดลัทธิกีดกันให้หมดไปจากโลกนี้ รวมไปถึงอคติที่สังคมมีต่อบุคคลข้ามเพศด้วย
แม้จะย้ายจากบ้านเก่าของ โอบามา มาอยู่ในสลัม และเคยขายบริการทางเพศอยู่ชั่วระยะหนึ่ง แต่ ตุรดี ก็ดูมีความสุขกับสิ่งที่เธอเป็น
เธอหวังว่า สักวันหนี่งจะได้กลับไปที่โรงเรียนประถมพร้อมกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากไม่มีโอกาสได้เจอกันเมื่อ โอบามา เดินทางเยือนอินโดนีเซียในปี 2010 และ 2011
“ฉันอยากบอกเขาว่า ทุกคนในโลกต่างยกย่องเขา ไม่ใช่เฉพาะชาวอเมริกันเท่านั้น” ตุรดี กล่าว
“ครั้งหนึ่ง เขาเคยชี้ไปที่รูปประธานาธิบดีซูการ์โน แล้วพูดว่า “ผมอยากโตขึ้นเป็นแบบนี้บ้าง” ฉันภูมิใจที่ฝันของเขาเป็นจริง”
“และหาก แบร์รี ที่ฉันเคยรู้จักเป็นคนเดียวกับ แบร์รี ซึ่งเป็นผู้นำอเมริกาในวันนี้ ฉันมั่นใจว่า เขาจะยอมรับในสิ่งที่ฉันเป็น ไม่ว่าฉันจะเป็นคนข้ามเพศหรือไม่ก็ตาม”