เอเอฟพี - ฮ่องกง แอร์ไลน์ส อาจยกเลิกคำสั่งซื้อเครื่องบิน แอร์บัส เอ380 จำนวน 10 ลำ หลังจากที่จีนประกาศต่อต้านแผนของสหภาพยุโรปที่จะเก็บภาษีคาร์บอนจากสายการบินต่างๆ รายงานเผย วันนี้ (1)
กรุงปักกิ่งสั่งห้ามสายการบินของตนไม่ให้ปฏิบัติตามนโยบายของอียู ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่ 1 มกราคม เป็นต้นมา ทว่าจะเริ่มเก็บภาษีจริงในปี 2013
ฮ่องกง แอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นสายการบินในเครือ ไห่หนาน แอร์ไลน์ส ระบุว่า หลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศคำสั่งดังกล่าวออกมา บริษัทก็ถูกกดดันให้ยกเลิกคำสั่งซื้อแอร์บัส เอ380 จำนวน 10 ลำ ซึ่งมีมูลค่าราว 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (116,000 ล้านบาท) ตามราคาแค็ตตาล็อก
“เราไม่อาจทำในสิ่งที่ขัดต่อผลประโยชน์ของชาติได้” หยาง เจี้ยนหง ประธานสายการบิน ฮ่องกง แอร์ไลน์ส ให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์ เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ ในฮ่องกง
ฮ่องกง แอร์ไลน์ส อาจมีการทบทวนแผนขยายฝูงบินใหม่ หากถูกบีบให้ยกเลิกคำสั่งซื้อเครื่องบินทั้ง 10 ลำ ซึ่งจะนำมาให้บริการแก่ลูกค้าแถบยุโรปและอเมริกาเหนือ
ทั้งนี้ ฮ่องกง แอร์ไลน์ส ยังไม่ออกมาให้สัมภาษณ์โดยตรง ทว่าโฆษก แอร์บัส ในสิงคโปร์ ยืนยันว่า สถานะคำสั่งซื้อยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
แอร์บัส ซึ่งเป็นผู้ผลิตอากาศยานรายใหญ่ของยุโรป มีแผนจะส่งมอบ เอ380 แก่ ฮ่องกง แอร์ไลน์ส ในปี 2015 รายงานเผย
จีนเป็นหนึ่งในอีกกว่า 20 ประเทศ ซึ่งรวมถึง อินเดีย, รัสเซีย และ สหรัฐฯ ที่ต่อต้านนโยบายเก็บภาษีคาร์บอนจากสายการบินที่ใช้สนามบินในยุโรป
อียู ให้เหตุผลว่า การเก็บภาษีคาร์บอนจากสายการบินจะช่วยให้สมาชิกทั้ง 27 ประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายลดการปลดปล่อยคาร์บอนลงร้อยละ 20 ภายในปี 2020 และจะไม่พับนโยบายนี้อย่างแน่นอน แม้จะมีเสียงร้องเรียนว่าการเรียกเก็บภาษีลักษณะนี้ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศก็ตาม
รัฐบาลปักกิ่ง เกรงว่า อุตสาหกรรมการบินของตนจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มถึงปีละ 800 ล้านหยวน (ราว 3,900 ล้านบาท) เป็นค่าภาษีคาร์บอนให้กับสนามบินในยุโรป ซึ่งราคาดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าตัวภายในปี 2020
