เอเอฟพี - เกิดเหตุระเบิดภายในฐานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของบราซิลในทวีปแอนตาร์กติกา วานนี้(25) ส่งผลให้นาวิกโยธินเสียชีวิต 2 นาย และบาดเจ็บอีก 1 นาย ทางการบราซิลแถลง
เซลโซ อามอริม รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมบราซิล ยืนยันการเสียชีวิตของ คาร์ลอส อัลเบอร์โต วิเอรา ฟิกูเอเรโด นายทหารชั้นประทวน และสิบเอก โรเบอร์โต โลเปซ โดส ซานโตส ซึ่งมีรายงานว่าหายตัวไปก่อนหน้านี้
“ทั้งสองได้แสดงออกถึงความกล้าหาญ โดยยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อเข้าไปดับไฟ ทว่าก็ทำไม่สำเร็จ” อามอริม กล่าว
สิบเอก ลูเซียโน โกเมส เมเดรอส ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเหตุระเบิด ซึ่งมีสาเหตุจากเพลิงไหม้ภายในห้องกำเนิดพลังงานของศูนย์วิจัย โกมันดันเต เฟอร์เรส ซึ่งตั้งอยู่บริเวณอ่าวแอดไมรัลตี เกาะคิงจอร์จ ใกล้กับส่วนปลายของคาบสมุทรแอนตาร์กติก
ด้านกระทรวงกลาโหมชิลี ยืนยันว่า ทีมค้นหาของบราซิลและชิลีพบร่างนาวิกโยธินทั้ง 2 นายที่มีรายงานว่าหายตัวไปหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้แล้ว โดยศพทั้งสองถูกพบอยู่ใกล้ฐานวิจัย และจะถูกส่งไปยังฐานทัพ เอดูอาร์โด เฟรย์ ของชิลี ต่อไป
อันเดรส อัลลามานด์ รัฐมนตรีกลาโหมชิลี เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นว่า ฐานวิจัยของบราซิลถูกแรงระเบิดจน “เสียหายยับเยิน”
นักวิจัยราว 30 คน ซึ่งรวมถึงนักปีนเขาและผู้แทนจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมบราซิล ถูกอพยพไปยังฐานทัพ เอดูอาร์โด เฟรย์ ของชิลีแล้ว โดยกองทัพอากาศอาร์เจนตินาอาสาส่งเฮลิคอปเตอร์เข้าไปรับพวกเขาเพื่อไปยังเมือง ปุนตา อาเรนาส ทางตอนใต้ของชิลี ขณะที่กองทัพอากาศบราซิลก็ส่งเครื่องบิน ซี-130 เฮอร์คิวลิส ไปยังเมืองดังกล่าว เพื่อรับพลเมืองกลับประเทศ
ฐานวิจัย โกมันดันเต เฟอร์เรส ก่อตั้งขึ้นในปี 1984 เพื่องานวิจัยด้านชีววิทยาเกี่ยวกับระบบนิเวศชายฝั่งและไหล่ทวีป โดยราว 30 ประเทศที่ลงนามในสนธิสัญญาแอนตาร์กติกต่างมีศูนย์วิจัยในทวีปแอนตาร์ติกา ซึ่งอาจปฏิบัติงานเฉพาะในบางฤดูกาลหรือตลอดทั้งปี
สนธิสัญญาดังกล่าวซึ่งมีผลบังคับในปี 1961 และปัจจุบันได้รับการลงนามโดย 49 ประเทศ กำหนดให้แอนตาร์ติกาเป็นเขตอนุรักษ์ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งสามารถทำการสำรวจทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างเสรี แต่ห้ามดำเนินกิจกรรมทางทหารทุกประเภท