เอเอฟพี - อุมาร์ ปาเต๊ะ ผู้ต้องหาคดีระเบิดไนต์คลับบนเกาะบาหลี เพียงแค่บังเอิญซ่อนตัวอยู่ในปากีสถาน เมืองเดียวกับอุซามะห์ บิน ลาดิน ก็เท่านั้น และทั้งสองคนไม่เคยพบกัน ทนายผู้ต้องหาให้การต่อศาลอินโดนีเซีย วันนี้ (20)
ปาเต๊ะ วัย 45 ปี ถูกดำเนินคดี 6 ข้อหา ทั้งฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ประกอบวัตถุระเบิด และครอบครองอาวุธโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จากเหตุลอบวางระเบิดถล่มเกาะบาหลี วันที่ 12 ตุลาคม 2002 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 202 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวออสเตรเลียถึง 88 คน และพลเมืองอินโดนีเซียอีก 38 คน
ณ ศาลจาการ์ตาตะวันตก วันนี้ ทีมทนายของผู้ต้องหาให้การคัดค้านข้อหาฆาตกรรม โดยโต้แย้งว่าปาเต๊ะไม่มีส่วนร่วมในการวางแผนระเบิด ทั้งนี้ ปาเต๊ะถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนจากปากีสถานมายังอินโดนีเซีย หลังจากถูกจับกุมในเดือนมกราคม 2011 ที่เมืองอับบอตตาบัด ในเมืองเดียวกันนี้ หน่วยคอมมานโดอเมริกันได้บุกสังหารอุซามะห์ บิน ลาดิน ผู้ก่อตั้งอัลกออิดะห์ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2011
อัสลูดิน ฮัตจานี ทนายฝ่ายผู้ต้องหา ปฏิเสธว่าปาเต๊ะไม่ได้เดินทางไปยังปากีสถาน เพื่อพบกับบิน ลาดิน แต่ “เขาไปปากีสถาน เพื่อหาทางอพยพเข้าอัฟกานิสถานต่อไป เขาไม่เคยพบกับอุซามะห์ บิน ลาดิน อันที่จริง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบิน ลาดิน อยู่ในอับบอตตาบัด”
ฮัตจานียังให้การปฏิเสธว่า ลูกความของเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มอัลกออิดะห์ แม้อุมาร์ ปาเต๊ะ จะได้ชื่อว่าเป็นสมาชิกคนสำคัญของกลุ่มญะมาอะห์ อิสลามิยะห์ (เจไอ) ซึ่งเชื่อกันว่ามีสายสัมพันธ์กับอัลกออิดะห์
ทนายจำเลยยังให้การว่า บทบาทของปาเต๊ะในเหตุระเบิดบาหลีมีเพียงแค่ประกอบวัตถุระเบิด และไม่ใช่ตัวการสำคัญในการวางแผน “ข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาจึงไม่ใช่ข้อหาที่เหมาะสม”
นอกจากนี้ อัสลูดิน ฮัตจานี ยังปฏิเสธแทนปาเต๊ะในอีกข้อหาว่า ปาเต๊ะเคยทดสอบปืนจู่โจม เอ็ม-16 จำนวน 3 กระบอก เพื่อช่วยฝึกอาวุธให้กับกลุ่มในจังหวัดอาเจะห์ ซึ่งตำรวจอินโดนีเซียเชื่อว่า มีกลุ่มติดอาวุธคิดก่อเหตุร้าย
ในเอกสารคำฟ้อง ปาเต๊ะถูกระบุว่าเกี่ยวข้องในการประกอบระเบิดที่ใช้โจมตีไนต์คลับบนเกาะบาหลี เมื่อปี 2002 รวมถึงโบสถ์หลายแห่งในกรุงจาการ์ตา ช่วงคริสต์มาสอีฟ ปี 2000 เขายังเป็นที่ต้องการตัวของทางการฟิลิปปินส์ ซึ่งกล่าวหาเขาว่า เคยร่วมวางแผนกับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง หวังก่อเหตุในฟิลิปปินส์
เชื่อกันว่าอุมาร์ ปาเต๊ะ ยังเกี่ยวข้องกับ ริดวน อิซามุดดิน หรือฮัมบาลี ผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายซึ่งถูกสหรัฐฯ สั่งขังลืมในเรือนจำอ่าวกวนตานาโม และอะบู บาการ์ บาชีร์ ครูสอนศาสนาหัวรุนแรงซึ่งถูกพิพากษาลงโทษจำคุก 15 ปี เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ฐานสนับสนุนการก่อการร้าย
การพิจารณาคดีของปาเต๊ะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ที่แล้ว (13) และคาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 4 เดือน