เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้เรือนจำแห่งหนึ่งในฮอนดูรัส เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 350 ราย ขณะที่หน่วยกู้ภัยพบศพเหล่านักโทษ ซึ่งมีสภาพไหม้เกรียมติดอยู่ภายในห้องขังน่าสยดสยอง
ปอมเปโย โบนิลลา รัฐมนตรีความมั่นคงของฮอนดูรัส เผยกับผู้สื่อข่าวว่า “มากกว่า 350 คนเสียชีวิต และนี่เป็นเพียงการประมาณ เราไม่สามารถมองข้ามไปได้ว่ายอดอาจสูงขึ้นอีก แต่เรากำลังตรวจสอบเพื่อที่เราจะสามารถบอกยอดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ได้อย่างชัดเจน และเป็นทางการ”
ด้าน รามอน กัสโตดิโอ คณะกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชนของฮอนดูรัสกล่าวก่อนหน้านี้ ว่า นักโทษจำนวน 357 คน หายไปจากการเช็กชื่อ แต่ชี้ว่าในจำนวนนั้นอาจมีบางคนหลบหนีออกจากคุกไปแล้ว หรือบางรายอาจนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
ตามคำให้การของ ดานิโล โอเรลลานา ผู้อำนวยการเรือนจำแห่งชาติ ระบุว่า เหยื่อส่วนใหญ่เสียชีวิตเนื่องจากสำลักควัน
เรือนจำโคมายากัว ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงเตกูชิกัลปาราว 90 กิโลเมตร เป็นที่คุมขังนักโทษเกือบ 900 คน ซึ่งเกินกว่าความสามารถในการรองรับได้ถึง 2 เท่า โดยการสอบสวนสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ยังดำเนินต่อไป
ผู้รอดชีวิตเล่าเหตุการณ์ ที่เหล่านักโทษอ้อนวอนร้องขอความช่วยเหลือ ขณะที่พวกเขาถูกเพลิงเผาผลาญ สำลักควัน แต่ไม่สามารถหลบหนีได้ เนื่องจากถูกใส่กุญแจ่มือติดกับห้องขัง ซึ่งนับเป็นเหตุไฟไหม้เรือนจำครั้งเลวร้ายที่สุดของโลกในรอบ 10 ปี
นักโทษหลายคนสามารถเอาตัวรอดได้ด้วยการกระโจนเข้าใส่น้ำฝักบัว อ่างล้างจาน หรือแหล่งน้ำอื่นๆ ที่พวกเขาสามารถหาได้ บางรายก็กระโดดจากบนหลังคาหลบหนีออกจากคุก ที่มีผู้คนหนาแน่นไปได้ ผู้รอดชีวิตรายหนึ่งเล่า
ความรุนแรงของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ทำให้ประธานาธิบดี ปอร์ฟิริโอ โลโบ สั่งพักงานเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเรือนจำ รวมถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ดานิโล โอเรลลานา โดยให้อับราฮัม ฟิเกอรัว ผู้ช่วยของเขาดำรงตำแหน่งแทนชั่วคราว
ทั้งนี้ ไฟน่าจะลุกไหม้เวลาประมาณ 22.50 น.ของวันอังคาร (14) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับ 11.50 น.วันพุธ (15) ตามเวลาของไทย โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงจึงจะควบคุมเพลิงไว้ได้
เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุเพลิงไหม้ที่แน่ชัด โดยแรกทีเดียวพวกเขาเชื่อว่ามากจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ภายหลังพวกเขาก็ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่อัคคีภัยครั้งนี้จะเป็นฝีมือของนักโทษโดยเจตนา
เรือนจำในฮอนดูรัส เช่นเดียวกับประเทศในละตินอเมริกาอื่นๆ มีชื่อเสียงด้านลบเกี่ยวกับความแออัดยัดเยียด ขณะที่ฮอนดูรัสมีเรือนจำทั้งหมด 24 แห่ง ซึ่งสามารถรองรับนักโทษราว 8,000 คน แต่แท้จริงแล้วมีจำนวนผู้ต้องขังมากถึง 13,000 คน
