เอเจนซี - นครซูริกของสวิตเซอร์แลนด์ ติดอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกแทนที่กรุงโตเกียว สืบเนื่องจากสภาวะค่าเงินแข็งในหลายประเทศ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ และ ออสเตรเลีย ผลสำรวจเผยวันนี้ (14)
เงินฟรังก์สวิส กลายเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับนักลงทุนที่ถอนตัวออกจากประเทศยูโรโซน ส่งผลให้นครซูริกขยับจากอันดับที่ 5 มาเป็นอันดับ 1 ในการจัดอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกปีนี้ ขณะที่เมืองเจนีวาอยู่ในลำดับที่ 3
ออสเตรเลียมีเมืองที่ติด 20 อันดับแรกอยู่ถึง 5 เมือง นำโดย ซิดนีย์ และ เมลเบิร์น ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 7 และ 8 ผลสำรวจค่าครองชีพทั่วโลกโดย อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต เผย
“อัตราแลกเปลี่ยนถือเป็นปัจจัยทรงอิทธิพลที่สุดต่อค่าครองชีพในออสเตรเลีย โดยในช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นเป็นเท่าตัว เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ” จอน โคปสเตก บรรณาธิการผลสำรวจ ระบุในถ้อยแถลง
แวนคูเวอร์ ของแคนาดาขยับแซงหน้าเมืองในสหรัฐฯขึ้นเป็นเมืองค่าครองชีพสูงสุดในอเมริกาเหนือ และอยู่ที่อันดับ 37 ของโลก ขณะที่ลอสแองเจลิสยังคงเป็นเมืองราคาแพงที่สุดในสหรัฐฯ อยู่ในลำดับที่ 42 ของโลกเช่นเดียวกับนครเซี่ยงไฮ้ของจีน ส่วนนิวยอร์กมาเป็นลำดับที่ 47
ผลสำรวจดังกล่าวสรุปจากการเปรียบเทียบราคากว่า 400 รายการ ใน 130 เมืองใหญ่ทั่วโลก ครอบคลุมสินค้าและบริการ 160 ประเภท ซึ่งมีทั้งอาหาร, เครื่องนุ่งห่ม, การขนส่ง, ค่าเช่า และค่าเทอมโรงเรียนเอกชน
เมืองใหญ่ในเอเชียล้วนขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่สูงขึ้น โดยสิงคโปร์ติดอันดับที่ 9 ส่วนกรุงโซลของเกาหลีใต้พุ่งขึ้นจากเดิม 9 อันดับมาอยู่ที่ 27
อย่างไรก็ตาม ทวีปเอเชียยังคงเป็นแหล่งรวมเมืองที่ค่าครองชีพถูกที่สุด โดย 3 ใน 4 เมืองที่มีค่าครองชีพต่ำสุดในโลกอยู่ในอนุทวีปอินเดีย ได้แก่ นิวเดลี, มุมไบ และการาจี