สหรัฐฯเผย “อิหร่าน” เตรียมใช้เรือเล็กโจมตีแบบพลีชีพในอ่าวเปอร์เซีย

เอเจนซี - อิหร่านเตรียมส่งเรือรบมาประจำการในอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งรวมถึงเรือขนาดเล็กสำหรับใช้ในภารกิจพลีชีพ ทว่า กองทัพเรือสหรัฐฯสามารถป้องกันไม่ให้พวกเขาปิดกั้นช่องแคบฮอร์มุซได้ ผู้บัญชาการนาวิกโยธินสหรัฐฯแถลง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (12)

อิหร่านยื่นคำขู่หลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า จะขัดขวางเส้นทางเดินเรือในอ่าวเปอร์เซีย หรือแม้กระทั่งโจมตีเรือรบสหรัฐฯเพื่อแก้แค้น หากการค้าน้ำมันของเตหะรานต้องหยุดชะงักลงเพราะมติคว่ำบาตร หรือโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านถูกโจมตี

“พวกเขาเพิ่มจำนวนเรือดำน้ำ... และเพิ่มจำนวนเรือพิฆาตเคลื่อนที่เร็ว” พลเรือโท มาร์ก ฟ็อกซ์ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน

“เรือเล็กบางลำถูกติดตั้งหัวรบขนาดใหญ่ซึ่งสามารถใช้เป็นระเบิดพลีชีพได้ พวกอิหร่านมีคลังระเบิดขนาดใหญ่มาก”

“เราเฝ้าติดตามดูการพัฒนาจรวดพิสัยไกล รวมถึงขีปนาวุธนิวเคลียร์พิสัยใกล้, ปานกลาง และไกลของพวกเขา และแน่นอนว่า เรากำลังจับตาดูโครงการนิวเคลียร์ของเขาด้วย” ฟ็อกซ์ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองเรือรบที่ 5 ของสหรัฐฯ กล่าวสรุปรายงานที่ฐานทัพเรือในบาห์เรน

ฟ็อกซ์ เผยด้วยว่า ขณะนี้อิหร่านมีเรือดำน้ำขนาดเล็กทั้งหมด 10 ลำ

ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหาร ชี้ว่า กองเรือที่ 5 ของสหรัฐฯซึ่งลาดตระเวนอยู่ในอ่าวเปอร์เซีย โดยมีเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่อย่างน้อย 1 ลำ ร่วมกับเครื่องบินรบ, เรือรบเคลื่อนที่เร็วขนาดเล็ก และเรือพิฆาต มีความแข็งแกร่งกว่ากองทัพเรือของอิหร่านมากนัก

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่มือระเบิดพลีชีพอัลกออิดะห์ใช้เรือเล็กเข้าโจมตีเรือพิฆาต ยูเอสเอส โคล ซึ่งจอดอยู่ที่ท่าเรือเยเมนเมื่อปี 2000จนมีลูกเรือเสียชีวิตไปถึง 17 นาย วอชิงตันก็เริ่มกังวลถึงความเสี่ยงที่เรือรบขนาดใหญ่ของตนจะตกเป็นเป้าโจมตีของฝ่ายศัตรูที่ใช้เรือขนาดเล็กกว่า

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กองทัพเรือสหรัฐฯพร้อมรับมือการโจมตีหรือปัญหาในอ่าวเปอร์เซียหรือไม่ ฟ็อกซ์ ให้คำตอบว่า “เราเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา เราได้เสนอทางเลือกหลายอย่างต่อประธานาธิบดี และเราก็มีความพร้อมด้วย... ถามว่าจะทำอย่างไรหากคืนนี้เกิดเหตุร้ายขึ้น? เราก็พร้อมตั้งแต่วันนี้แล้ว”

ต่อคำถามที่ว่า คิดอย่างไรกับคำขู่ปิดช่องแคบฮอร์มุซของอิหร่าน ฟ็อกซ์ ตอบว่า “พวกเขาจะทำให้เราใช้ชีวิตอย่างยากลำบากได้ไหม? ใช่ครับ เขาทำได้แน่ ถ้าหากเราไม่ทำอะไรเลย และพวกเขาสามารถลงมือได้โดยไม่ถูกสกัดกั้น ช่องแคบถูกปิดแน่นอน แต่ผมไม่คิดว่าเราจะปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนั้น”

ฟ็อกซ์ กล่าวด้วยว่า ควรใช้การเจรจาทางการทูตเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งก่อนเป็นอันดับแรก

“เมื่อได้ทราบถึงข้อถกเถียงเรื่องคำขู่ของอิหร่าน เราก็เชื่อแน่ว่า ทางออกที่ดีที่สุดยังอยู่ที่การเจรจา ผมมั่นใจว่านั่นคือสิ่งที่ต้องทำ ส่วนพวกเราก็มีหน้าที่เตรียมตัวและเฝ้าระวัง”

สหภาพยุโรปประกาศคว่ำบาตรน้ำมันของอิหร่านเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งจะมีผลบังคับอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 1 กรกฎาคม นอกจากนี้ ทั้งสหรัฐฯและอียูยังประกาศคว่ำบาตรธนาคารกลางอิหร่าน ซึ่งจะทำให้ประเทศอื่นๆจ่ายเงินซื้อน้ำมันจากอิหร่านได้ลำบากขึ้น และอิหร่านเองก็ยากที่จะจ่ายเงินซื้อสินค้านำเข้าจากต่างประเทศด้วย