เอเอฟพี/บีบีซี - ชาติสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเตรียมเผชิญหน้ากันบนโต๊ะประชุมว่าด้วยประเด็นซีเรีย ขณะที่ตะวันตกเร่งกดดันให้รัสเซียสนับสนุนมาตรการยับยั้งเหตุนองเลือด หลังจากการสู้รบทวีความรุนแรงขึ้น กระทั่งมีเหยื่อถูกสังหารเกือบร้อยชีวิตเมื่อวันจันทร์ (30)
ท่ามกลางข่าวเหยื่อรายใหม่จำนวนมาก และคำเตือนว่าอาจเกิดการสังหารหมู่ผู้ประท้วง รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส รวมทั้งแกนนำสันนิบาตอาหรับกำลังมุ่งหน้าสู่มหานครนิวยอร์กในวันนี้ (31) เพื่อผลักดันมติของยูเอ็น
อย่างไรก็ตาม รัสเซียยังยืนกรานจะใช้อำนาจวีโต้มติที่เสนอโดยโมร็อกโก ซึ่งต้องการให้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ยอมรับข้อตกลงหยุดยิงและส่งมอบอำนาจให้รองประธานาธิบดี ก่อนจัดการเจรจา
“คณะมนตรีความมั่นคงฯ ต้องแสดงออกอย่างชัดเจนให้ซีเรียตระหนักว่า สังคมโลกมองการกระทำของระบอบซีเรียเป็นภัยต่อสันติภาพและความมั่นคง” ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงวานนี้ (30) พร้อมทั้งย้ำว่า คณะมนตรีความมั่นคงฯ ต้องการส่งข้อความถึงประชาชนซีเรียว่า “พวกเราอยู่ข้างคุณ”
ด้านบรรดาผู้นำชาติยุโรป ณ ที่ประชุมอียู ก็ประณามความรุนแรงในซีเรียเป็นเสียงเดียวกัน โดยเฮอร์มัน ฟาน รอมปุย ประธานสหภาพยุโรป เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ “ดำเนินมาตรการที่ล่าช้ามานาน เพื่อยุติการกดขี่ในซีเรีย”
เดือนตุลาคมที่ผ่านมา รัสเซียและจีนเคยใช้อำนาจยับยั้งร่างมติลงโทษซีเรียที่ตะวันตกผลักดัน ทั้งสองชาติยังกล่าวหาชาติตะวันตกในประเด็นการใช้อำนาจผ่านยูเอ็นโดยมิชอบ เพื่อล้มล้างระบอบของ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี แห่งลิเบีย
เกนนาดี กาติลอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์กรณีร่างมติฉบับล่าสุด ว่า “มีการเรียกร้องให้ชาติสมาชิกหยุดส่งอาวุธให้ซีเรีย” ขณะที่รัสเซียเป็นพันธมิตรอันยาวนาน และเป็นผู้ส่งอาวุธรายสำคัญให้ระบอบอัสซาด “แต่ไม่มีความชัดเจนระหว่าง การค้าอาวุธผิดกฎหมายที่บางประเทศหนุนหลังกลุ่มหัวรุนแรงในซีเรีย กับ ความสัมพันธ์ทางทหารกับซีเรีย”
อีกทางเลือกหนึ่ง รัสเซียเสนอให้ระบอบอัสซาดกับฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ตั้งโต๊ะเจรจากันอย่างไม่เป็นทางการในกรุงมอสโก โดยไม่มีเงื่อนไข
ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 5,400 คน จากความพยายามของรัฐบาลซีเรียในการปราบปรามกระแสอาหรับสปริง ซึ่งได้โค่นล้มผู้นำเผด็จการในอียิปต์ ลิเบีย และตูนิเซีย ลงในปี 2011
กลุ่มสิทธิมนุษยชนเปิดเผยว่า มีเหยื่อถูกสังหารทั่วซีเรียอีก 95 คน เป็นพลเรือนอย่างน้อย 35 คน เฉพาะในวันจันทร์ (30) วันเดียว ขณะที่วันอาทิตย์ (29) มีรายงานการเสียชีวิตอีกอย่างน้อย 80 คน นับเป็นการปะทะกันครั้งรุนแรงที่สุด ตั้งแต่การประท้วงปะทุขึ้นประมาณ 10 เดือนที่แล้ว
กองกำลังรัฐบาลสามารถกลับเข้าควบคุมพื้นที่รอบๆ กรุงดามัสกัส เมืองหลวงซีเรีย ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกกองกำลังฝ่ายต่อต้านยึดครองไปชั่วคราว นอกจากนี้ สภาแห่งชาติซีเรีย (เอสเอ็นซี) องค์กรฝ่ายต่อต้านรัฐบาล เตือนว่าอาจเกิดการสังหารหมู่ในเมืองรันคุส (Rankus) ห่างจากเมืองหลวงไปทางเหนือ 40 กิโลเมตร หลังจากทหารรัฐบาลได้ปิดล้อมคนหนุ่มหลายร้อยภายในเมืองมานานกว่า 6 วัน
รถถังรัฐบาลซีเรียถูกโจมตีไฟลุกท่วมในเมืองรัสตัน (Rastan) วานนี้ (30)