จากเวิลด์ โซเชียล ฟอรัม! ปธน.หญิงบราซิลร้องหาไอเดียใหม่ แก้ไขโลก

เอเอฟพี - ประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟฟ์ แห่งบราซิล เรียกร้องให้กลุ่มนักเคลื่อนไหวในที่ประชุมสังคมโลก หรือ “เวิลด์ โซเชียล ฟอรัม” คิดหาไอเดียใหม่ๆ เพื่อช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วนของโลก

ที่ประชุมเวิลด์ โซเชียล ฟอรัม เป็นการรวมตัวของกลุ่มพันธมิตรที่ต่อต้านการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิกส์ ฟอรัม ซึ่งเป็นงานรวมตัวของผู้นำเศรษฐกิจและการเมืองโลกประจำปี การประชุมทั้งสองจัดขึ้นเวลาเดียวกัน โดยเวิลด์ โซเชียล ฟอรัม จัดขึ้นที่เมืองปอร์โต อะเลเกร ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิล ส่วนเวิลด์ อีโคโนมิกส์ ฟอรัม จัดขึ้นที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์

ดิลมา รูสเซฟฟ์ ประธานาธิบดีหญิงแห่งบราซิล กล่าวว่า ไอเดียใหม่ๆ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยโลกรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจ นอกจากนั้น เธอยังวิพากษ์ว่า ความเสียหายจากวิกฤตเศรษฐกิจได้เตือนชาติพัฒนาแล้ว ว่า กำลังทำให้ “ประชาธิปไตยของตนเอง” ตกอยู่ในจุดเสี่ยง

ความขัดแย้ง “ระหว่างเสียงจากตลาดกับเสียงจากข้างถนน ดูเหมือนจะดังขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศพัฒนาแล้ว”

ภายใต้สโลแกนประจำปีนี้ที่ว่า “วิกฤตทุนนิยม ความยุติธรรมด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม” จุดประสงค์สำคัญของที่ประชุมเวิลด์ โซเชียล ฟอรัม ครั้งนี้ คือ การวางรากฐานสำหรับการประชุมซัมมิตความเคลื่อนไหวทางสังคม ซึ่งจะมีขึ้นพร้อมกับการประชุมยูเอ็นว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่จะมีขึ้นในเดือนมิถุนายน ณ กรุงรีโอเดจาเนโร

สำหรับวาระสำคัญของที่ประชุมยูเอ็นในเดือนมิถุนายน ประธานาธิบดีรูสเซฟฟ์กล่าวว่า “คือ รูปแบบการพัฒนา ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตและการสร้างงาน การต่อสู้กับความยากจน และลดความไม่เท่าเทียม” และสนับสนุน “การใช้และการรักษาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน”

หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมเวิลด์ โซเชียล ฟอรัม ประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟฟ์ จะเดินทางไปยังคิวบาและเฮติต่อ โดยปีนี้ ผู้นำบราซิลเลือกที่จะไม่เข้าร่วมในการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิกส์ ฟอรัม ทั้งๆ ที่บราซิลเป็นหนึ่งประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ขนาดใหญ่

นอกจากนี้ กลุ่มผู้ที่เข้าร่วมกับที่ประชุมเวิลด์ โซเชียล ฟอรัม ในเมืองปอร์โต อะเลเกร ยังประกอบไปด้วยตัวแทนจากกลุ่ม “อินดิกนาดอส” ผู้ประท้วงการรัดเข็มขัดของรัฐบาลจากสเปน และกลุ่ม “อ็อกคิวพาย วอลล์สตรีท” ประท้วงนาธนาคารหน้าเลือดจากสหรัฐฯ

ทั้งนี้ การประชุมเวิลด์ โซเชียล ฟอรัม มีที่มาจากการประท้วงในเมืองซีแอตเทิล ของสหรัฐฯ เมื่อปี 1999 ระหว่างการประชุมขององค์การการค้าโลก ต่อมาในภายหลัง มีการตั้งสำนักงานใหญ่อย่างเป็นทางการ ณ เมืองปอร์โต อะเลเกร เมื่อ 12 ปีที่แล้ว และมีกลุ่มนักเคลื่อนไหวเดินทางเข้าร่วมจากทั่วโลกกว่า 20,000 คน เป็นประจำทุกปี