เอเจนซีส์ - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตสหรัฐฯ ปีนี้ พร้อมกับแบไพ่คงอัตราดอกเบี้ยเกือบ 0% ต่อไปอย่างน้อยจนถึงปลายปี 2014 ประธานเฟด เบน เบอร์นันกี ยังสำทับด้วยว่าพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ หากยังไม่ยอมฟื้นตัวและอัตราว่างงานพุ่งสูง
กรอบเวลาจนกระทั่งถึงปี 2014 สำหรับการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งเช่นนี้ ดูจะนานกว่าที่พวกนักลงทุนคาดไว้ รวมทั้งยังนานกว่าที่เฟดเองเคยประกาศไว้เมื่อปีที่แล้ว
ในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธ (25) ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) รวม 2 วันในวันอังคารและวันพุธ เบอร์นันกี ดูระมัดระวังเมื่อพูดเกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และแม้ไม่ได้บอกใบ้ว่า เฟดพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ แต่เปิดช่องไว้ว่า พร้อมดำเนินการหากเศรษฐกิจไม่ฟื้นและอัตราว่างงานยังสูงโด่ง
"ผมไม่คิดว่า ณ จุดนี้ เราพร้อมประกาศว่า เราเข้าสู่ช่วงเวลาของการเติบโตเข้มแข็งรอบใหม่แล้ว หากสถานการณ์ยังคงดำเนินต่อไปในสภาพที่อัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าเป้าหมาย และอัตราว่างงานลดต่ำลงช้ามาก ในสถานการณ์นั้น ภายใต้กรอบโครงของเรา เราควรมองหาวิธีอื่นๆ เพิ่มเติม”
เพื่อรับมือภาวะถดถอยที่ลึกล้ำที่สุดในรอบหลายชั่วอายุคน เฟดได้ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายลงอยู่ที่เกือบๆ 0% ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2008 รวมทั้งยังอัดฉีดเศรษฐกิจด้วยโปรแกรมรับซื้อหลักทรัพย์ระยะยาว 2 ครั้งรวมมูลค่า 2.9 ล้านล้านดอลลาร์
นโยบายดังกล่าวได้รับการยอมรับว่า ช่วยป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวรุนแรง แต่ยังไม่เพียงพอดึงอัตราว่างงานให้กลับสูงขึ้นสู่ระดับที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอยู่ในสภาพที่ดี ผู้สังเกตการณ์หลายคนคาดว่า เฟดจะมีมาตรการซื้อหุ้นกู้รอบใหม่โดยเน้นที่สินเชื่อบ้าน
ในด้านการคาดการณ์เศรษฐกิจนั้น คำแถลงของเฟดที่ออกมาภายหลังการประชุมเอฟโอเอฟซีคราวนี้ ย้ำจุดยืนที่ว่า สหรัฐฯ เผชิญความเสี่ยงขาลงรุนแรง ซึ่งเป็นการบ่งบอกเป็นนัยถึงวิกฤตหนี้ยุโรปที่คุกคามอเมริกาอยู่ขณะนี้ ซึ่งเมื่อประกอบกับในสหรัฐฯเองกำลังประสบภาวะสินเชื่อตึงตัว การลงทุนในภาคธุรกิจชะลอตัว และตลาดที่อยู่อาศัยซบเซาไม่เลิก เฟดจึงตัดสินใจปรับลดคำทำนายอัตราเติบโตปีนี้มาอยู่ที่ 2.2-2.7% ต่ำกว่าการคาดการณ์ครั้งที่แล้วราว 0.25% ส่วนปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 2.8-3.2% และสูงกว่า 3.3% ในปี 2014
สำหรับอัตราว่างงาน เฟดคาดหมายว่าจะลดลงอยู่ที่ 8.2% ปลายปีนี้ และ 7.4% ปลายปีหน้า ทว่า เบอร์นันกีย้ำว่านี่ก็ยังเป็นตัวเลขที่สูงเกินไป
ทั้งนี้ ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา อัตราว่างงานอยู่ที่ 8.5% โดยอเมริกันชน 13 ล้านคนยังคงพยายามหางานทำ
สภาพเศรษฐกิจ “มีแนวโน้มเป็นเหตุผลสนับสนุนอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำพิเศษ ไปอย่างน้อยจนถึงปลายปี 2014” เฟดระบุ ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมเอฟโอเอ็มซีทุกครั้งนับจากเดือนสิงหาคมปีที่แล้วเป็นต้นมา คำแถลงของเฟดยังระบุแค่ว่า อัตราดอกเบี้ยไม่มีแนวโน้มปรับขึ้นจนถึงกลางปี 2013
ในคราวนี้เฟดยังดูเบาใจกับเงินเฟ้อมากกว่าในการประชุมครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนที่แล้ว โดยคำแถลงระบุว่า มีแนวโน้มที่ราคาผู้บริโภคจะเคลื่อนไหวอยู่ใกล้หรือต่ำกว่าเป้าหมาย เจ้าหน้าที่เฟดยังเห็นพ้องว่า เป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% สอดคล้องกับเป้าหมายเสถียรภาพราคาของคองเกรส แต่ตัวเลขในใจจริงๆ คืออัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ราว 1.7%
ทว่า เจ้าหน้าที่เฟดปฏิเสธที่จะประกาศเป้าหมายอัตราว่างงาน โดยให้เหตุผลว่า ตลาดงานมักได้รับอิทธิพลจากปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเฟด
จุดเปลี่ยนสำคัญอีกอย่างซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเพิ่มความโปร่งใสคือ เป็นครั้งแรกที่เฟดเผยแพร่การคาดการณ์ของพวกผู้วางนโยบายในเอฟโอเอ็มซีเกี่ยวกับแนวทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เหมาะสม ซึ่งปรากฏว่าพวกเขามีมุมมองอันแตกต่างหลากหลาย ทั้งนี้ ผู้วางนโยบาย 3 ใน 17 คนเห็นว่า ควรขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่ 2 คนต้องการให้ระงับความเคลื่อนไหวดังกล่าวไปจนถึงปี 2016 แต่เสียงส่วนใหญ่คือ 5 จาก 17 เล็งเป้าหมายที่ปี 2014