เอเจนซี - สหรัฐฯ และอิสราเอล เลื่อนการซ้อมรบร่วม ที่กำลังจะมีขึ้น ออกไปภายหลังในปีนี้ ขณะที่แหล่งข่าวระบุ ทั้งสองประเทศต่างปฏิเสธว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ใช่เพื่อหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นเรื่องๆ กับอิหร่าน
การซ้อมป้องกันขีปนาวุธ ในชื่อรหัส “ออสเทียร์ แชลเลนจ์ 12” ซึ่งคาดว่าจะเป็นการฝึกซ้อมครั้งใหญ่ที่สุดระหว่าง 2 ชาติพันธมิตร ที่มักจะซ้อมรบร่วมกันเป็นประจำอยู่แล้ว มีกำหนดจัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่เพนตากอนออกมาระบุว่า การซ้อมดังกล่าวจะมีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2012 แทน
ก่อนหน้านี้ สื่อยิวรายงานว่า การซ้อมรบครั้งนี้ถูกยกเลิกไป เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ แต่ผู้เชี่ยวชาญบางรายคาดว่าผลเหตุที่แท้จริงน่าจะเป็นเพราะความกังวลที่จะสร้างความร้าวฉานกับอิหร่านเพิ่มเติมมากกว่า
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ นายหนึ่งปฏิเสธว่า ความตึงเครียดกับเตหะรานไม่ใช่ปัจจัยในการเลื่อนซ้อมรบ ส่วนแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอิสราเอล ก็อ้างว่า เป็นเพราะปัญหาพลาธิการทางทหาร โดยทั้งสองแหล่งข่าวต่างกล่าวโดยไม่ขอเปิดเผยตัวตน
ด้าน นาวาเอก จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอน ชี้ว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเลื่อนการซ้อมรบที่เกิดขึ้นเป็นกิจวัตร และมีหลากหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบ แต่ในที่นี้คือ ผู้นำทั้งสองฝ่ายเชื่อว่าความร่วมมือจะบรรลุเป้าหมายได้ดีที่สุดภายหลังในปีนี้
ขณะที่อิสราเอลมองภัยคุกคามร้ายแรงในโครงการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม และการผลิตขีปนาวุธของอิหร่าน คณะผู้นำยิวจึงไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะใช้กำลังทหารในการยับยั้งภัยดังกล่าว
ฝ่ายอิหร่านยืนกรานมาตลอดว่า โครงการนิวเคลียร์ของตนมีจุดประสงค์เพื่อสันติเท่านั้น
ความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตัน และเตหะราน เริ่มตึงเครียดมากขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังประธานาธิบดี บารัค โอบามา ลงนามในร่างกฏหมายเมื่อก่อนวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งหากกฏหมายนี้มีผลบังคับใช้ ทำให้หลายๆ ประเทศไม่สามารถซื้อน้ำมันของอิหร่านได้
อิหร่านจึงตอบโต้ ด้วยการขู่ปิดช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หากมาตรการดังกล่าวของสหรัฐฯ ขัดขวางการส่งออกน้ำมันของประเทศ ซึ่งสหรัฐฯ เองก็โต้กลับด้วยว่าจะไม่ยอมให้อิหร่านทำเช่นนั้น