เอเอฟพี - ผู้บริหารระดับสูงของโรลส์-รอยซ์ เผยวันนี้ (11) ว่า บริษัทกำลังเล็งขยายธุรกิจเข้ามาในประเทศไทย และ เวียดนาม หลังผู้ผลิตรถยนต์สุดหรูรายนี้ มียอดขายทำสถิติในตลาดเอเชีย ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในปี 2011
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษ ซึ่งเยอรมนีเป็นเจ้าของ ประกาศในวันจันทร์ (9) ที่ผ่านมาว่า ยอดขายรถยนต์ในปีที่แล้วโตขึ้น 31% หรือเพิ่มขึ้นจาก 2,711 คัน ในปี 2010 เป็น 3,538 คัน ในปี 2011 ซึ่งนับเป็นยอดขายโดยรวมประจำปีที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ 107 ปีของบริษัท
ยอดขายที่พุ่งสูงขึ้นนั้น มาจากความต้องการในตลาดจีน และสหรัฐฯ โดยมีการเติบโตเมื่อเทียบปีต่อปีในเอเชียแปซิฟิก 47% ในอเมริกาเหนือ 17% และในตะวันออกกลาง 23%
“เอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เราเห็นการเติบโตจริงในทุกตลาด ทั้งเกาหลี และญี่ปุ่น” ทอร์เซน มุลเลอร์ ออตวอส ซีอีโอของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส กล่าวในระหว่างเยือนฮ่องกง
“ขณะนี้เรากำลังเข้าไปในประเทศไทย เรายังมองตลาดเวียดนาม ในอินโดจีน ด้วย ในความรู้สึกทั่วๆ ไป ที่อยากเห็นว่าโอกาสแบบไหนที่เราจะได้รับ” เขากล่าว แต่ปฏิเสธที่จะลงรายละเอียด โดยอ้างว่ากำลังอยู่ในระหว่างหารือ
มุลเลอร์ ออตวอส ระบุว่า บริษัทอาจเพิ่มตัวแทนจำหน่ายในจีนอีก 3 หรือ 4 แห่งในปีนี้ ขณะที่แดนมังกรโค่นสหรัฐฯ กลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของโรลส์-รอยซ์ ในปี 2011
ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ยังกล่าวว่า เขามีความหวังกับยอดขายในจีน โดยเชื่อมั่นว่า โรลส์-รอยซ์ จะมียอดขายทำสถิติได้อีกครั้งในปี 2012 แม้จะมีความกังวลว่าเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลกแห่งนี้อาจชะลอตัวลง
ปัจจุบัน บริษัทโรลส์-รอยซ์ ซึ่งถูกบีเอ็มดับเบิลยู ซื้อไปในปี 1998 มีเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย 14 แห่งในจีน และอีกหลายสิบแห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึง โซล โตเกียว สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ จาการ์ตา ซิดนีย์ เมลเบิร์น และ นิวเดลี
ในเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส วางแผนขยายโรงงานที่กู้ดวูด ทางใต้ของอังกฤษ เพื่อสนองความต้องการมากมายจากทั่วโลก ทั้งรุ่นแฟนทอม และโกสต์