xs
xsm
sm
md
lg

ตลท. แนะช่อง บจ.ขนาดใหญ่ บุกลงทุนใน ตปท. สร้างผลตอบแทนสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตลท. แนะช่อง บจ.ขนาดใหญ่ หันลงทุนใน ตปท. หลังพบ ปัจจุบันการเติบโตนิ่ง ไม่มีก้าวกระโดดเหมือนในอดีต แถมเจอภาวะ ศก.ไทย เติบโตได้น้อยลงกว่าเมื่อก่อน ระบุ กลุ่มอินโดจีนน่าสนใจ

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ (ตลท.) กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “ขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านกลไกตลาดทุน” โดยระบุว่า ตลท. อยากให้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขนาดใหญ่ของไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการออกไปลงทุนในกลุ่มอินโดจีน ซึ่งนับวันเศรษฐกิจมีการเติบโตที่ดี

นอกจากนี้ การที่ บจ.ขยายการลงทุนไปต่างประเทศจะสนับสนุนให้ผลดำเนินการมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ จากปัจจุบันบริษัทขนาดใหญ่มีการเติบโตในลักษณะที่มีเสถียรภาพ หรือมีอัตราการเติบโตที่คงที่ ขณะที่เศรษฐกิจไทยตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจหรือจีดีพีก็ไม่ได้เติบโตอย่างเช่นอดีตที่ผ่านมา

“หาก บจ.ออกไปลงทุนขยายกิจการในต่างประเทศ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะสนับสนุนให้ผลประกอบการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่าง เช่น บจ.ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ที่มีผลประกอบการเติบโต 35%”

นายจรัมพร กล่าวว่า เหตุที่มองว่าเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศอินโดจีนยังมีการเติบโตที่ดี เพราะมีทรัพยากรและความเหมาะสมในด้านต่างๆ ที่สนับสนุนให้การออกไปลงทุนประสบความสำเร็จได้

อย่างไรก็ตาม สำหรับแหล่งเงินทุนที่บริษัทจะนำไปใช้ในการขยายการลงทุนนั้นสามารถระดมทุนหรือพึ่งพาเงินทุนจากตลาดทุนไทยได้ เพราะการระดมทุนในตลาดทุนไทยมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในกลุ่มอินโดจีนและบริษัทยังมีหนี้สินต่อทุนที่ต่ำมากเฉลี่ยต่ำกว่า 1 ต่อ 1 เท่า กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าว

สำหรับบริษัทหรือธุรกิจที่อยู่นอกตลาดสามารถดูแบบอย่างของ บจ.ในตลาดได้ว่าบริษัทขนาดกลางและเล็กมีโอกาสที่จะเติบโตได้ หากใช้ตลาดทุนเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงทุนและนำไปขยายกิจการ

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 12 ปีที่ผ่านมาบริษัทจดทะเบียนมีการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์กว่า 8 แสนล้านบาท เฉพาะปีที่ผ่านมามีการระดมทุนมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท ทำให้ล่าสุดมีบริษัทที่จดทะเบียนใน ตลท.มีทั้งหมด 545 บริษัท แบ่งเป็นในตลาดฯ 472 บริษัท และตลาดหลัก ทรัพย์ mai 72 บริษัท รวมมูลค่ามาร์เก็ตแคป 8.4 ล้านล้านบาท ใกล้เคียงกับจีดีพีของประเทศ ในขณะที่ผลงานของบริษัทจดทะเบียนในปีที่ผ่านมาก็ทำกำไรได้ค่อนข้างดี

“ตลาดหลักทรัพย์ไทยขณะนี้มีสภาพคล่องเป็นอันดับ 1 หรือ 2 ของอาเซียน ซึ่งใกล้เคียงกับตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านไทยเพิ่งจะเริ่มต้นให้ความสำคัญกับตลาดหลักทรัพย์ ในขณะที่บริษัทในตลาดฯ ก็ล้วนแต่แข็งแกร่ง แม้จะผ่านวิกฤตมาหลายรอบก็ยังสามารถอยู่ได้”

ด้านนายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า มีแนวคิดผลักดันให้บริษัทอยู่ทั้งในและนอกตลาดเข้าถึงการระดมทุนในตลาดทุน
กำลังโหลดความคิดเห็น