บุรีรัมย์ - รองนายกเทศมนตรี-ส.ท.พร้อมตัวแทนชาวบ้าน 13 หมู่บ้าน อ.บ้านกรวด บุรีรัมย์ ร่วม 100 คน สุดทนบุกแจ้งดำเนินคดีผู้ว่าฯ-อุตฯ จังหวัด-สวล.จังหวัด-นอภ.บ้านกรวด และเทศบาลตำบลบึงเจริญ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อย รง.ยางตั้งกลางชุมชนก่อมลพิษ ส่งกลิ่นเหม็นน้ำเสีย ทำชาวบ้านล้มป่วยและพื้นที่เกษตรเสียหาย ร้องเรียนมานานไม่ได้รับการแก้ไขเดือดร้อนมานานกว่า 5 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รองนายกเทศมนตรี พร้อมสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบึงเจริญ และตัวแทนชาวบ้าน ทั้งเด็ก และคนชราจาก 13 หมู่บ้านใน ต.บึงเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ร่วม 100 คน นำโดย นายกิตติพงษ์ อภัยจิตต์ เป็นแกนนำ รวมตัวกันลงชื่อเดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านกรวด ให้ดำเนินคดีต่อผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, อุตสาหกรรมจังหวัดฯ, สำนักงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฯ, นายอำเภอบ้านกรวด รวมทั้งเทศบาลตำบลบึงเจริญ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 โดยการปล่อยให้ บริษัท ไทยฮั้ว ยางพารา จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยางพารา ตั้งใจกลางชุมชน ก่อมลพิษทั้งส่งกลิ่นเหม็น และปล่อยน้ำเสียลงสู่ชุมชน ทำให้ชาวบ้าน โดยเฉพาะเด็ก และคนชราหลายรายต้องเกิดอาการเจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ทั้งยังทำให้นาข้าวของเกษตรกรที่อยู่ใกล้บริเวณโรงงานเสียหายไม่ได้ผลผลิต เดือดร้อนมานานกว่า 5 ปี
ที่ผ่านมาชาวบ้านเคยร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทั้งจังหวัดบุรีรัมย์, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด, สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฯ รวมถึงทางเทศบาลตำบลบึงเจริญแล้วหลายครั้ง และได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบวิเคราะห์แล้ว พบว่าโรงงานดังกล่าวได้ก่อมลพิษและปล่อยน้ำเสียลงสู่ชุมชนจริง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ กับทางโรงงานดังกล่าว และทางโรงงานก็ยังไม่มีแก้ไขปรับปรุงปล่อยให้ชาวบ้านเดือดร้อนมาอย่างต่อเนื่อง
จากกรณีดังกล่าวชาวบ้านสุดทน จึงได้พากันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการเอาผิด ตามกฎหมายฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กับหน่วยงานที่รับผิดชอบดังกล่าว
ด้าน นายกิตติพงษ์ อภัยจิตต์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ที่ 3 บ.สายตรี 6 เหนือ ต.บึงเจริญ อ.บ้านกรวด ตัวแทนชาวบ้านที่เข้าแจ้งความ กล่าวว่า ชาวบ้านต้องทนรับกับสภาพความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็น น้ำเสียจากโรงงานยางดังกล่าว มาตั้งแต่ก่อตั้งโรงงาน หรือปลายปี 2549 ถึงแม้ที่ผ่านมาชาวบ้านจะร่วมกันลงชื่อเข้าไปร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ และโรงงานก็ยังไม่มีการแก้ไขปรับปรุง แต่กลับมีการขยายโรงงานออกไปเรื่อยๆ และสร้างมลภาวะให้กับชาวบ้าน จึงได้พากันรวมตัวเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
“หากการแจ้งความในครั้งนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ชาวบ้านก็จะรวมตัวกันเข้าร้องต่อศาลปกครอง เพื่อให้เอาผิดกับทางโรงงาน และหน่วยงานที่รับผิดชอบดังกล่าวต่อไป” นายกิตติพงษ์ กล่าว
ด้าน นางทอน สุวรรณเพชร อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ที่ 3 บ.สายตรี 6 เหนือ ต.บึงเจริญ อ.บ้านกรวด ชาวบ้านที่เดือดร้อน กล่าวว่า มีการปล่อยน้ำเสียลงที่นาของตน ข้าวได้รับความเสียหายมา 5 ปี ทางโรงงานรับปากจะรับผิดชอบข้าวที่เสียหายแต่ก็ไม่มีการรับผิดชอบเลย หนำซ้ำยังส่งกลิ่นเหม็นจากการอบยางพาราตลอดทั้งวันทั้งคืน จนชาวบ้านทนไม่ไหวอยู่บ้านไม่ได้ ต้องย้ายไปอยู่กับญาติ
อีกทั้งเด็กคนชราต้องล้มป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจจากการสูดดมกลิ่นยาง ไปแจ้งเทศบาลก็ไม่ดำเนินการให้ ชาวบ้านไม่รู้จะพึ่งใคร จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยเหลือด่วน ก่อนที่ชาวบ้านทั้งตำบลจะเดือดร้อนไปมากกว่านี้
ขณะที่ นายสูง ศรีตัมภวา อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ที่ 4 บ้านสายตรี 7 ใต้ ต.บึงเจริญ อ.บ้านกรวดชาวบ้านที่เดือดร้อน กล่าวว่า บ้านอยู่ห่างจากโรงงานกว่า 200 เมตร ได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นจากการอบยางพารา จนไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้ ลูกหลานต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น เหลือตนอยู่บ้านคนเดียว สระน้ำที่ชาวบ้านใช้อุปโภคบริโภคในหมู่บ้าน ตอนนี้ไม่สามารถใช้ได้ตามปกติเพราะมีการปล่อยน้ำเสียปนเปื้อนลงไป ซึ่งทางโรงงานก็ไม่มีการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือชาวบ้านแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.ท.พิบูลย์ คำจันดี รอง ผกก.ป.สภ.บ้านกรวด ระบุว่า หลังรับแจ้งความจากชาวบ้านจะรายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมรับปากว่าจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามขั้นตอนกระบวนการของกฎหมาย และจะให้คำตอบความคืบหน้ากับชาวบ้านภายใน 15 วัน ชาวบ้านพอใจจึงพากันเดินทางกลับในเวลาต่อมา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเข้าแจ้งความชาวบ้านได้พาผู้สื่อข่าวลงไปในหมู่บ้านเพื่อตรวจสอบโรงงานดังกล่าว พบว่ามีการก่อสร้างติดถนนสายบ้านกรวด-ละหานทราย ในพื้นที่ หมู่ 4
บ.สายตรี 7 ใต้ ต.บึงเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ทั้งยังมีการต่อเติมขยายโรงงานออกไปอย่างต่อเนื่อง และมีการปล่อยน้ำเสียลงสู่ร่องน้ำสาธารณะริมถนนในหมู่บ้าน โดยมีกลิ่นเหม็นจากการอบยางพาราโชยออกมาจากโรงงานกระจายไปไกลหลายกิโลเมตร ก่อมลพิษและสร้างมลภาวะให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้โรงงาน และผู้สัญจรผ่านไปมา