เอเอฟพี - มิตต์ รอมนีย์ ผู้สมัครตัวเต็งจากพรรครีพับลิกัน สามารถคว้าชัยชนะในการหยั่งเสียงรอบไพรแมรีของรัฐนิวแฮมป์เชียร์เป็นสนามที่ 2 ขณะที่ ส.ส.รอน พอล และอดีตทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่ง จอน ฮันต์สแมน ได้คะแนนมาเป็นที่ 2 และ 3 ตามลำดับ สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้ (11)
สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ และเอ็มเอสเอ็นบีซี ต่างรายงานล่วงหน้าถึงชัยชนะครั้งที่ 2 ของอดีตผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นตัวเต็งเบอร์ 1 จากพรรครีพับลิกัน ที่จะลงชิงชัยกับโอบามา ในการเลือกตั้งวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้
สัปดาห์ที่แล้ว รอมนีย์ เพิ่งคว้าชัยในการเลือกตั้งแบบคอคัสของรัฐไอโอวา ด้วยคะแนนนำคู่แข่งเพียง 8 คะแนน ทว่าผลการเลือกตั้งในวันนี้ รวมถึงชัยชนะในอีก 2 สนามเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงสิ้นเดือน น่าจะทำให้ รอมนีย์ คว้าตำแหน่งผู้แทนจากพรรครีพับลิกันได้ในที่สุด
รอมนีย์ ซึ่งเป็นผู้สมัครรีพับลิกันคนแรกที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดี แต่สามารถคว้าชัยชนะในการเลือกผู้แทนพรรคมาได้ถึง 2 สนามติดต่อกัน กล่าวต่อผู้สนับสนุนที่เมืองแมนเชสเตอร์ว่า “คืนนี้เราได้สร้างประวัติศาสตร์แล้ว”
“เราทุกคนจำได้ดี วันที่ บารัค โอบามา มาที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์เมื่อ 4 ปีก่อน เขาสัญญาว่าจะสร้างความสามัคคี สัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงระบบบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพของวอชิงตัน สัญญาว่าจะพัฒนาประเทศ” อดีตผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์และนายทุนมหาเศรษฐี ระบุ
“นั่นเป็นวันที่ผู้สมัครซึ่งมีความหวังคนหนึ่งสัญญาอะไรไว้มากมาย แต่วันนี้ เราได้เห็นประวัติอันน่าผิดหวังของประธานาธิบดีผู้ล้มเหลว”
“ท่านประธานาธิบดีคงคิดอะไรไม่ออกแล้ว และตอนนี้ก็ไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรแล้วด้วย”
“และคืนนี้เราขอให้ประชาชนในเซาท์แคโรไลนาร่วมกับชาวรัฐนิวป์แฮมป์เชียร์ ทำให้วาระของประธานาธิบดีผู้นี้หมดลงในปี 2012”
หลังการนับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วใน 27 หน่วยเลือกตั้ง รอมนีย์ได้รับคะแนนโหวตร้อยละ 36 แซงหน้าอันดับ 2 อย่าง พอล ซึ่งได้คะแนนร้อยละ 25 ส่วน ฮันต์สแมนรั้งอันดับ 3 ด้วยคะแนนโหวตร้อยะ 17
อดีตประธานสภา นิวต์ กริงกริช และอดีต ส.ว.คริสเตียนอนุรักษนิยม ริค แซนโทรัม ยังต้องช่วงชิงอันดับที่ 4 ด้วยคะแนนโหวตราวร้อยละ 10 ทั้งคู่