เอเอฟพี - เรือประมงซึ่งบรรทุกผู้อพยพราว 250 คนประสบอุบัติเหตุล่มนอกชายฝั่งเกาะชวาของอินโดนีเซีย วานนี้(17) ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยค้นหาผู้รอดชีวิตด้วยความยากลำบาก เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนและทะเลมีคลื่นสูง
“เรือซึ่งบรรทุกผู้อพยพประมาณ 250 คน ล่มทางตอนใต้ของหาดปริงี ทางตะวันออกของเกาะชวา และเราได้เริ่มค้นหาผู้รอดชีวิตแล้ว” หน่วยกู้ภัยและช่วยชีวิตของอินโดนีเซีย เผย
สำนักข่าว อันตารา ของอินโดนีเซียอ้างรายงานจาก ไบรอัน โกเธียร์ หนึ่งในทีมค้นหาว่า “เรือลำดังกล่าวล่มเมื่อช่วงเย็นวันเสาร์(17)”
“การค้นหาผู้รอดชีวิตทำได้ค่อนข้างลำบากมาก เพราะสภาพอากาศแปรปรวน และทัศนวิสัยไม่ดี” เขากล่าว
ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถช่วยชีวิตลูกเรือได้แล้ว 33 ราย ซึ่งทั้งหมดกำลังพักฟื้นอยู่ที่เมืองปริงี ห่างจากจุดที่เรือล่มประมาณ 30 กิโลเมตร
โกเธียร์ เผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยเชื่อว่ายังมีผู้รอดชีวิตอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจกำลังประสบภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง
“พวกเขาต้องได้รับความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด เพราะคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่กลางทะเลได้นานนัก”
ทั้งนี้ คาดว่าเรือที่ผู้อพยพเหล่านี้โดยสารมาน่าจะเป็นเรือประมงธรรมดา ซึ่งสามารถบรรทุกคนได้ไม่เกิน 100 คน
เอสมัต อาดีน ผู้รอดชีวิตชาวอัฟกานิสถาน วัย 24 ปี แจ้งจำนวนผู้โดยสารโดยประมาณให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยทราบ
“เขาไม่ทราบว่าบนเรือมีผู้โดยสารทั้งหมดกี่คนแน่ แต่บอกว่า มีรถบัสซึ่งบรรทุกคนได้ราว 60 คนจำนวน 4 คัน มาจอดที่ท่าเรือ และผู้โดยสารทั้งหมดก็ลงเรือมาด้วยกัน” ล่ามซึ่งแปลคำพูดของ อาดีน กล่าว
อาดีน ระบุว่า เรือลำนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังเกาะคริสต์มาสของออสเตรเลีย
มูฮัมหมัด คอยริล ผู้กำกับการตำรวจแขวงวาตูลิโม เผยต่อเว็บไซต์ Detik.com วันนี้(18)ว่า “หลังจากสัมภาษณ์ผู้โดยสารที่รอดชีวิต ทำให้ทราบว่าพวกเขามาจากอัฟกานิสถาน, อิหร่าน และปากีสถาน มีบางคนที่มาจากดูไบด้วย”
ทุกๆปีจะมีผู้ลี้ภัยหลายพันคนมุ่งหน้ามายังประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเดินทางต่อไปยังออสเตรเลีย โดยบางรายหันไปพึ่งพาแก๊งค้ามนุษย์ในอินโดนีเซีย เพื่อให้ส่งขึ้นเรือไปยังที่หมาย
กรุงแคนเบอร์รายังไม่ประสบความสำเร็จในการจัดตั้งศูนย์จัดการผู้ลี้ภัยในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลดจำนวนผู้ลี้ภัยหลายพันคนที่หลั่งไหลเข้ามายังออสเตรเลียทุกปี
“เรือซึ่งบรรทุกผู้อพยพประมาณ 250 คน ล่มทางตอนใต้ของหาดปริงี ทางตะวันออกของเกาะชวา และเราได้เริ่มค้นหาผู้รอดชีวิตแล้ว” หน่วยกู้ภัยและช่วยชีวิตของอินโดนีเซีย เผย
สำนักข่าว อันตารา ของอินโดนีเซียอ้างรายงานจาก ไบรอัน โกเธียร์ หนึ่งในทีมค้นหาว่า “เรือลำดังกล่าวล่มเมื่อช่วงเย็นวันเสาร์(17)”
“การค้นหาผู้รอดชีวิตทำได้ค่อนข้างลำบากมาก เพราะสภาพอากาศแปรปรวน และทัศนวิสัยไม่ดี” เขากล่าว
ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถช่วยชีวิตลูกเรือได้แล้ว 33 ราย ซึ่งทั้งหมดกำลังพักฟื้นอยู่ที่เมืองปริงี ห่างจากจุดที่เรือล่มประมาณ 30 กิโลเมตร
โกเธียร์ เผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยเชื่อว่ายังมีผู้รอดชีวิตอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจกำลังประสบภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง
“พวกเขาต้องได้รับความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด เพราะคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่กลางทะเลได้นานนัก”
ทั้งนี้ คาดว่าเรือที่ผู้อพยพเหล่านี้โดยสารมาน่าจะเป็นเรือประมงธรรมดา ซึ่งสามารถบรรทุกคนได้ไม่เกิน 100 คน
เอสมัต อาดีน ผู้รอดชีวิตชาวอัฟกานิสถาน วัย 24 ปี แจ้งจำนวนผู้โดยสารโดยประมาณให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยทราบ
“เขาไม่ทราบว่าบนเรือมีผู้โดยสารทั้งหมดกี่คนแน่ แต่บอกว่า มีรถบัสซึ่งบรรทุกคนได้ราว 60 คนจำนวน 4 คัน มาจอดที่ท่าเรือ และผู้โดยสารทั้งหมดก็ลงเรือมาด้วยกัน” ล่ามซึ่งแปลคำพูดของ อาดีน กล่าว
อาดีน ระบุว่า เรือลำนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังเกาะคริสต์มาสของออสเตรเลีย
มูฮัมหมัด คอยริล ผู้กำกับการตำรวจแขวงวาตูลิโม เผยต่อเว็บไซต์ Detik.com วันนี้(18)ว่า “หลังจากสัมภาษณ์ผู้โดยสารที่รอดชีวิต ทำให้ทราบว่าพวกเขามาจากอัฟกานิสถาน, อิหร่าน และปากีสถาน มีบางคนที่มาจากดูไบด้วย”
ทุกๆปีจะมีผู้ลี้ภัยหลายพันคนมุ่งหน้ามายังประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเดินทางต่อไปยังออสเตรเลีย โดยบางรายหันไปพึ่งพาแก๊งค้ามนุษย์ในอินโดนีเซีย เพื่อให้ส่งขึ้นเรือไปยังที่หมาย
กรุงแคนเบอร์รายังไม่ประสบความสำเร็จในการจัดตั้งศูนย์จัดการผู้ลี้ภัยในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลดจำนวนผู้ลี้ภัยหลายพันคนที่หลั่งไหลเข้ามายังออสเตรเลียทุกปี
