เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุธรณีพิบัติรุนแรงขนาด 7.2 ที่ตุรกีเมื่อวันอาทิตย์ (23) พุ่งขึ้นเป็นอย่างน้อย 264 รายแล้ว และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 1,300 คน นอกจากนี้ยังคาดว่าจำนวนเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายอาจเพิ่มขึ้นอีกมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยของทางการยขะมักเขม้นปฏิบัติการกู้ศพและค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคารที่ถล่มพังครืนลงมาหลายสิบหลัง ด้านรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ส่งสารแสดงความเสียใจต่อเหตุแผ่นดินไหวคราวนี้ พร้อมกับเสนอที่จะมอบความช่วยเหลือแก่พันธมิตรใกล้ชิดของวอชิงตันรายนี้
อิดริส นาอิม ซาฮิน รัฐมนตรีมหาดไทยของตุรกี ระบุวันจันทร์ (24) ว่า เหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.2 ที่ถล่มจังหวัดทางตะวันออกของตุรกี เมื่อวันอาทิตย์ (23) ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นธรณีพิบัติครั้งรุนแรงที่สุดของประเทศในรอบอย่างน้อย 10 ปีด้วยนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 264 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นเหยื่อในจังหวัดแวนและในเขตเออร์ซิส นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 1,300 คน
ภาพข่าวจากสถานีโทรทัศน์ตุรกีเผยให้เห็นบรรดาเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยกำลังพยายามค้นหาและกู้ศพเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากใต้ซากปรักหักพังทั้งในจังหวัดแวน และเขตเออร์ซิส กันอย่างขะมักเขม้น
นายกรัฐมนตรีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดแกน ได้รุดไปเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยพิบัติในจังหวัดแวนและเขตเออร์ซิส จังหวัดแวนเป็นศูนย์กลางเกิดแผ่นดินไหวคราวนี้และเป็นจังหวัดที่มีชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ดอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ โดยเขาระบุว่า ยอดเหยื่อผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีกทันทีที่เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์สามารถเก็บกู้ศพซึ่งติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังออกมาได้หมด
“ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยจะยังดำเนินต่อไปตลอดทั้งคืน” นายกฯ เออร์โดแกน กล่าว
เขาระบุด้วยว่า สถานการณ์ที่เออร์ซิส เขตที่มีประชาชนอาศัยอยู่ราว 100,000 คน ก็ยังน่าวิตก สืบเนื่องจากแผ่นดินไหวทำให้ตึกอพาร์ตเมนต์ประมาณ 55 หลังพังทลายลงมา
ด้านเบคีร์ คายา นายกเทศมนตรีแวน ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์เอ็นทีวี ว่า “ผู้คนต่างอยู่ในอาการตื่นตระหนก ระบบโทรคมนาคมก็ล่มใช้การไม่ได้ พวกเราไม่สามารถติดต่อกับใครได้”
สื่อรายงานว่า ทางการได้ส่งทีมค้นหาและกู้ภัยรวม 1,275 คนจาก 38 เมืองในตุรกี และรถพยาบาลอีก 145 คันไปยังพื้นที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วนแล้วแล้ว ขณะที่กองทัพได้ส่งทหาร 6 กองพัน, เฮลิคอปเตอร์ 6 ลำ ซึ่งจำนวนนี้เป็นเฮลิคอปเตอร์พยาบาล 4 ลำ ตลอดจนเครื่องบินขนส่งทางทหารรุ่น ซี-130 อีกหลายลำ ซึ่งบรรทุกทั้งเต็นท์, อาหาร และเวชภัณฑ์ ออกไปปฏิบัติการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ด้วย
นอกจากนี้ประชาชนคนธรรมดาก็ได้ช่วยเหลือกันคนละไม้คนละมือในการค้นหาศพ หรือดึงผู้บาดเจ็บออกจากกองซากปรักหักพัง โดยใช้พลั่วหรือเครื่องไม้เครื่องมืออื่นๆ กันแบบตามมีตามเกิด
“ยังมีความพยายามในการช่วยเหลือผู้รอดชีวิตต่อไป ทว่า ความสูญเสียคราวนี้มันใหญ่โตมาก สำหรับผมเองก็เห็นคนตาย 3-4 ศพแล้ว” ชายคนหนึ่งในเขตเออร์ซิส บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพี
รายงานข่าวระบุด้วยว่า มีนักโทษเกือบ 200 คนได้หลบหนีออกจากเรือนจำในจังหวัดแวน หลังจากอาคารเรือนจำได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว โดยในจำนวนนั้น 50 คนกลับไปยังเรือนจำแล้ว หลังได้พบกับครอบครัวของพวกเขา
ส่วนสถานการณ์ด้านอื่นๆ นั้น สำนักข่าวอนาโตเลียรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่การบินพลเรือนว่า ถึงแม้ธรณีพิบัติคราวนี้จะสร้างความเสียหายให้กับสนามบินในจังหวัดแวน ทว่าก็ไม่ได้กระทบการจราจรทางอากาศในจังหวัดดังกล่าวแต่อย่างใด
ทางด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ได้ส่งสารแสดงความเสียใจต่อเหยื่อผู้ประสบภัยในตุรกี โดยระบุว่าสหรัฐฯ รู้สึกเป็นห่วงเป็นใย และติดตามรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมกับเสนอจะมอบความช่วยเหลือแก่ตุรกีด้วย
“เราจะขอยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับตุรกีพันธมิตรของเรา ในช่วงเวลายากลำบากเช่นนี้ และเราก็พร้อมจะให้ความช่วยเหลือแก่ทางการตุรกี” ประมุขทำเนียบข่าว กล่าวในคำแถลง
ทั้งนี้ สถาบันวิจัยทางธรณีวิทยาคานดิลลีของตุรกี ระบุว่า แผ่นดินไหวซึ่งวัดได้ระดับ 7.2 ครั้งนี้ อุบัติขึ้นเมื่อเวลา 10.41 น. ของวันอาทิตย์ (23) ตามเวลามาตรฐานกรินิช (ตรงกับ 17.41 น. ตามเวลาเมืองไทย) โดยมีศูนย์กลางอยู่ในตาบานลี จังหวัดแวน นอกจากนี้ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีก 2 ครั้ง
แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้ยังสามารถรับรู้ไปได้ไกลถึงพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอิหร่าน ซึ่งสร้างความแตกตื่นในหลายเมืองใหญ่ แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต