เอเอฟพี - เด็กชายวัย 12 ปีรายหนึ่ง ถูกดึงออกจากซากความเสียหายของเหตุแผ่นดินไหวในตุรกีโดยยังมีชีวิตอยู่ ในวันนี้ (28) หลังจากต้องติดอยู่ในกองอิฐกองหินมานานกว่า 108 ชั่วโมง ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากภัยธรรมชาติเมื่อวันอาทิตย์ (23) ที่ผ่านมานั้น เพิ่มขึ้นเป็น 570 รายแล้ว
เด็กชายเฟอร์ฮัต โทเคย์ ได้รับความช่วยชีวิตจากหน่วยกู้ภัยในช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ เป็นการเพิ่มความหวังให้แก่ทีมเจ้าหน้าที่ ซึ่งทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ ในการค้นหาผู้รอดชีวิตต่อไป
ก่อนหน้านี้ ช่วงเย็นวันพฤหัสบดี (27) ที่ผ่านมา อิมดัต ปาดัก วัย 18 ปี ก็ได้รับความช่วยเหลือในเมืองเออร์ซิส หลังต้องติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังจากแผ่นดินไหวนานกว่า 100 ชั่วโมง แม้ความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มจะริบหรี่ลงเรื่อยๆ ก็ตาม
เด็กผู้รอดชีวิตทั้ง 2 คน ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลภาคสนามในเมืองเออร์ซิสทันที แล้วจึงถูกเคลื่อนย้ายโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง เพื่อรับการรักษาต่อไป
ตามข้อมูลล่าสุดจากหน่วยฉุกเฉินของรัฐบาล ระบุว่า มีผู้รอดชีวิต ที่ถูกดึงขึ้นจากซากความเสียหายของแผ่นดินไหวระดับ 7.2 ในหลายๆ เมืองของจังหวัดแวน ทางตะวันออกของตุรกีแล้ว 187 คน
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการเพิ่มขึ้นเป็น 570 ราย และได้รับบาดเจ็บราว 2,500 คน โดยพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวรุนแรงนี้มากที่สุดคือเมืองเออร์ซิส ซึ่งตึกรามบ้านช่องรวม 80 แห่งพังทลายลงมาทั้งหมด
ยิ่งไปกว่านั้น ในวันนี้ ยังมีหิมะตกลงสร้างความทุกข์เพิ่มเติมให้แก่ผู้รอดชีวิตจำนวนมาก ที่ต้องตั้งเต็นท์พักอาศัยกันกลางแจ้งในสภาพอากาศหนาวจัด โดยเกรงว่าอาคารที่ยังไม่เสียหายจะถล่มลงมาด้วยแรงสั่นสะเทือนของอาฟเตอร์ช็อก
ทั้งนี้ มีการร้องเรียนอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับความล่าช้าในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเขตชาวเคิร์ด ซึ่งนายกรัฐมนตรี เรเซป ทายยิป เออร์โดแกนของตุรกียอมรับว่า ไม่สามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงที แต่ระบุว่า ได้ส่งรัฐมนตรีครึ่งหนึ่งไปสำรวจปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือกู้ภัยแล้ว
