เอเอฟพี - เรือซึ่งบรรทุกผู้ลี้ภัยชาวศรีลังกากว่า 200 คน เกิดอัปปางนอกชายฝั่งเกาะคริสต์มาสของออสเตรเลียเมื่อวันพฤหัสบดี(21) ขณะที่ตำรวจคาดว่าอาจมีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน
เมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดี(21) ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลของออสเตรเลีย เปิดเผยว่าสามารถช่วยเหลือผู้ลี้ภัยได้แล้ว 110 คน หลังจากเรือลำนี้เกิดอุบัติเหตุในน่านน้ำของอินโดนีเซียในช่วงบ่าย
เรือลำนี้ได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ ก่อนที่จะอัปปาง ห่างจากเกาะคริสต์มาส 120 ไมล์ทะเลและห่างจากแผ่นดินใหญ่ของออสเตรเลีย 2,600 กิโลเมตร และเชื่อว่ามีคนอยู่บนเรือประมาณ 200 คน
คาร์ล โอคัลลาแกน อธิบดตำรวจเวสเทิร์น ออสเตรเลีย แสดงความกังวลว่าอาจมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก "รายงานเบื้องต้นบางแห่งชี้ว่าอาจมีคนจมน้ำตายมากกว่า 75 คน แต่ผมขอย้ำว่าจนถึงตอนนี้พวกเขายังไม่ยืนยันตัวเลขดังกล่าว"
"เรากังวลว่าอาจมีคนจมน้ำตายจำนวนมาก เราได้ยินเครื่องบินลำลาดตระเวณลำหนึ่งบอกว่าหลายคนบนเรือไม่สวมเสื้อชูชีพ" เขากล่าว ขณะที่โฆษกศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลของออสเตรเลียบอกว่าพวกที่รอดชีวืตนั้นทั้งหมดสวมเสื้อชูชีพ
ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลของออสเตรเลีย บอกด้วยว่าเรือสินค้าดับเบิลยูเอสเอ ดรากอนและเรือของกองทัพเรือออสเตรเลียได้รุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือดึงผู้รอดชีวิตขึ้นจากน้ำ ขณะที่เครื่องบินป้องกันภัยทางอากาศได้หย่อนแพชูชีพซึ่งสามารถบรรทุกได้ทั้งหมด 60 คนลงไปช่วยผู้ลี้ภัยที่ยังมีชีวิตรอด
เครื่องบินและเรือของกองทัพเรือออสเตรเลีย 2 ลำ ยังคงตรวจตราในพื้นที่ที่เรืออัปปางแม้ล่วงเข้าสู่ยามค่ำคืน ในความพยายามค้นหาผู้รอดชีวิต ขณะที่เรือพาณิชย์ 2 ลำและเรือจากกองทัพเรือออสเตรเลียอีก 2 ลำ ก็กำลังมุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ
กากาห์ ปราโคโซ โฆษกหน่วยงานค้นหาและกู้ภัยของอินโดนีเซีย ซึ่งเข้าร่วมปฏิบัติการกู้ภัยครั้งนี้เผยว่า ได้รับแจ้งจากศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลของออสเตรเลียว่าเรือลำนี้แล่นมาจากศรีลังกาผ่านน่านน้ำอินโดนีเซียและกำลังมุ่งหน้ามาขอลี้ภัยที่เกาะคริสต์มาสของออสเตรเลีย
"เรือเดินทางมาจากศรีลังกาเพื่อไปยังเกาะคริสต์มาส และได้ไปถึงเส้นเขตแดนทางทะเลของออสเตรเลียแล้ว เรือ 2 ลำของกองทัพเรืออินโดนีเซียกำลังเดินทางไปจุดเกิดเหตุ" เขากล่าว
อินโดนีเซียคือเส้นทางที่ผู้ลี้ภัยมักใช้เป็นทางผ่านในความพยายามมุ่งหน้าไปยังเกาะคริสต์มาส ซึ่งอยู่ติดกับเกาะชวามากกว่าแผ่นดินใหญ่ของออสเตรเลียเสียอีก อย่างไรก็ตามบ่อยครั้งที่เรือของผู้ลี้ภัยเหล่านั้นไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง
ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เรือผู้ลี้ภัยราว 250 คนส่วนใหญ่เป็นอัฟกันและอิหร่านล่มในน่านน้ำอินโดนีเซีย มีคนรอดชีวิตแค่ 47 ราย
ขณะเดียวกันเฉพาะในปีนี้เจ้าหน้าที่สามารถสกัดเรือได้ถึง 62 ลำ พร้อมผู้ลี้ภัย 4,484 ราย ถือเป็นจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในระยะเวลาเพียงครึ่งปี สาเหตุที่ทำให้ผู้เดินทางมาขอลี้ภัยเพิ่มขึ้นจำนวนมากเกิดจากศาลสูงมีคำสั่งให้รัฐบาลยกเลิกข้อตกลง "แลกคน" กับมาเลเซีย
