เอเอฟพี - ตำรวจชารีอะห์อินโดนีเซียอยู่ระหว่างดำเนินการฟื้นฟูทางศีลธรรมแก่พวกวัยรุ่นสาวกพังค์ร็อคมากกว่า 60 คนในจังหวัดอาเจะห์บนเกาะสุมาตรา หลังบุกรวบตัวหนุ่มสาวซ่าเหล่านั้นกลางงานคอนเสิร์ต ฐานทำภาพลักษณ์ของจังหวัดมัวหมอง
นับตั้งแต่โดนจับ ณ เวทีคอนเสิร์ตพังค์ร็อคในบันดา อาเจะห์ เมืองหลวงของจังหวัดเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว วัยรุ่นชาย 59 คนและหญิง 5 คน ถูกบังคับตัดผมจนเกรียน อาบน้ำในคลอง เปลี่ยนชุดและสวดมนต์
"เรากลัวว่ากฎหมายชารีอะห์อิสลามที่บังคับใช้ในจังหวัดแห่งนี้จะแปดเปื้อนจากพฤติกรรมของพวกเขา" รองนายกเทศมนตรีเมืองบันดา อาเจะห์ ผู้ออกคำสั่งให้มีการจับกุมบอกกับเอเอฟพีในวันพุธ(14) "เราหวังว่าหลังส่งพวกเขาเข้าศูนย์ฟื้นฟู ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาเหล่าน้นจะรู้สึกเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป"
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สาวกพังค์ร็อคอินโดนีเซียหลายร้อยคนจากทั่วประเทศ แห่แหนกันมาร่วมชมคอนเสิร์ตซึ่งจัดขึ้นที่เมืองบันดา อาเจะห์ ในการแสดงที่จัดขึ้นเพื่อหาเงินสมทบกองทุนช่วยเหลือเด็กกำพร้า
อย่างไรก็ตามขณะที่กำลังสนุกสานกันอยู่นั้น ตำรวจได้บุกจู่โจมและเข้ารับจัมกุมเหล่าแฟนเพลงพันธุ์แท้พังค์ร็อคที่ไว้ผมทรงโมฮอร์ก สักตามร่างกาย สวมกางเกงยีนส์รัดรูปหรือสวมเครื่องประดับประหลาดๆ จากนั้นในวันอังคาร(13) ก็นำตัวพวกเขาไปยังศูนย์ฟื้นฟูทางศีลธรรมของตำรวจเพื่อฝึกอบรมเป็นเวลา 10 วัน
ตำรวจบอกว่าวัตถุประสงค์ของปฏิบัติการครั้งนี้คือการละลายพฤติกรรมเพี้ยนๆของเยาวชนเหล่านั้น "พวกเขาไม่เคยอาบน้ำ กินนอนบนท้องถนน แถมยังไม่เคยสวดมนต์อีกด้วย" อิสกันการ์ ฮาซาน ผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดอาเจะห์บอกกับเอเอฟพี "เราต้องการปรับปรุงพวกเขาเพื่อที่พวกเขาจะมีพฤติกรรมที่เหมาะสมและถูกต้องตามศีลธรรมมากขึ้น พวกเขาจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างเข้มงวดเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางจิตใจ"
อย่างไรก็ตามนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนท้องถิ่นกลับมองว่าการจับกุมเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน "สิ่งที่ตำรวจทำเป็นอะไรที่ประหลาดมาก การเป็นพังค์ก็แค่วิถีชีวิต คนแบบนี้มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก พวกเขาไม่ได้ทำผิดกฎหรือเป็นภัยต่อคนอื่นๆเลย"