เอเอฟพี - อบู ยะห์ยา อัล-ลิบี แกนนำอาวุโสของกลุ่มอัลกออิดะห์ เรียกร้องผ่านสื่อวิดีโอที่เผยแพร่วานนี้ (5) ให้ฝ่ายกบฏลิเบียอย่าเพิ่งทิ้งอาวุธแม้โค่นล้มรัฐบาลมูอัมมาร์ กัดดาฟี สำเร็จแล้ว และให้นำกฎหมายอิสลาม (ชารีอะห์) มาประกาศใช้ในลิเบีย
ในคลิปวิดีโอซึ่งบันทึกเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ลิบีกล่าวยกย่องฝ่ายกบฏที่สามารถล้มล้างระบอบกัดดาฟีลงได้ พร้อมแนะให้พวกเขาอย่าทิ้งอาวุธตามที่ชาติตะวันตกเรียกร้อง องค์กรติดตามการก่อการร้าย SITE ระบุ
“การละทิ้งอาวุธซึ่งช่วยปลดแอกพวกท่านจากการตกเป็นทาสของรัฐบาลกัดดาฟีนานกว่า 4 ทศวรรษ ก็เท่ากับพวกท่านยอมกลับไปเป็นทาสในรูปแบบใหม่ของพวกทรราช ไม่ว่าจะเป็นคนลิเบียหรือคนต่างชาติก็ตาม พวกเขาจะปล้นชิงเจตนารมณ์ของพวกท่านไป และจำกัดเสรีภาพของพวกท่าน” บทแปลคำกล่าวของลิบี โดยองค์กร SITE ระบุ
ลิบียังอ้างว่า ในอเมริกามีการค้าอาวุธอย่างเสรีไม่ต่างจากขาย “แตงโม” และชาวอเมริกันถือว่าการครอบครองอาวุธเป็นสิทธิที่ไม่พึงละเมิด
“แล้วเหตุใดอเมริกาและตะวันตกจึงพยายามกีดกันไม่ให้ชาวลิเบียได้รับสิทธินั้น ทั้งที่ศาสนาอิสลามให้สิทธิ์แก่เราก่อนที่อเมริกาและกฎหมายของเขาจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ” ลิบีกล่าว
แกนนำอัลกออิดะห์เชื้อสายลิเบียซึ่งไม่มีผู้ใดทราบที่อยู่ของเขารายนี้ เรียกร้องให้ชาวลิเบียจับอาวุธ “เพื่อปกป้องศาสนา, ชีวิต, เกียรติยศ และเงินทอง ภายใต้บทบัญญัติชารีอะห์”
“บนทางแยกนี้ ท่านจงเลือกเอาเถิดระหว่างการปกครองทางโลกที่มุ่งตอบสนองความโลภของพวกจระเข้จากตะวันตก และปล่อยให้พวกเขาบรรลุจุดมุ่งหมาย หรือว่าจะยืนหยัดเข้มแข็งเพื่อเชิดชูศาสนาของอัลเลาะห์”
มุสตาฟา อับเดล ญาลีล ผู้นำชั่วคราวของลิเบีย ออกมาประกาศไม่นานนี้ว่าจะใช้ชารีอะห์เป็นกฎหมายหลักของประเทศ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และคัดค้านจากนานาชาติ ด้วยเกรงว่าการปฏิวัติในโลกอาหรับจะเปิดทางให้กลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงกลับมาเรืองอำนาจอีกครั้ง