บรูไนไทม์ส/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทนายความของจำเลยหญิงชาวไทยในบรูไนกำลังยื่นเรื่องขอลดโทษหย่อนจำคุก หลังลูกความถูกพิพากษาให้มีความผิด ฐานเป็นธุระจัดหาหญิงขายบริการ ขณะที่ศาลอาญาบรูไนมีกำหนดพิพากษาโทษในวันพฤหัสบดี (15) หนังสือพิมพ์บรูไนไทม์สรายงาน
สัปดาห์ที่ผ่านมา ไลลาตุล ซูไบดะห์ หัวหน้าผู้พิพากษาศาลอาญาบรูไน มีคำตัดสินว่า นางจุฑามาศ แซ่งัก (Chuthamat Saegnag) จำเลยหญิงวัย 48 ปี ผิดจริงตามข้อหาเป็นธุระจัดหาผู้หญิง 2 คน เพื่อการค้าประเวณี เป็นความผิดจำนวน 2 กระทง บรูไนไทม์สรายงานวันนี้ (14)
ในการต่อรองขอลดหย่อนโทษ เอชเจ ซุล-ซูร์การ์ลา ทนายของนางจุฑามาศ ให้การต่อศาลว่า จำเลยเป็นหญิงสมรสแล้ว มีบุตรหนึ่งคนอยู่ในประเทศไทย โดยฝากให้มารดาวัย 70 ปี เป็นผู้ดูแล
เอชเจ ซุล-ซูร์การ์ลา ร้องขอความเห็นใจจากศาลว่า นางจุฑามาศอาจต้องโทษจำคุก ทั้งๆ ที่ผู้หญิงสองคนนั้นอยู่กับจำเลยด้วยความสมัครใจ โดยจำเลยไม่ได้หาประโยชน์ใดจากการค้าประเวณี
นอกจากนี้ ทนายซุล-ซูร์การ์ลากล่าวว่า การยึดหนังสือเดินทางก็เสมือนเป็นการลงโทษจำเลยแล้ว เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว นางจุฑามาศไม่สามารถเดินทางกลับมาเยี่ยมครอบครัวในช่วงที่บ้านประสบปัญหาอุทกภัย
ซุล-ซูร์การ์ลาวิงวอนต่อว่า ขอให้ตัดสินลงโทษความผิดสูงสุด “เพียงกระทงเดียว” หากศาลพิพากษาโทษจำคุกแก่นางจุฑามาศ พร้อมทั้งร้องให้ศาลพิจารณาข้อบังคับทั้งหมดให้ถี่ถ้วน ก่อนการตัดสินโทษ
ขณะเดียวกัน รองอัยการของบรูไนให้ข่าวตอบโต้ว่า ข้อหาต่อนางจุฑามาศสมบูรณ์ด้วยคำตัดสินของศาลแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากคดีนี้เกี่ยวข้องกับผู้เสีย 2 คน ศาลจะลงโทษจำเลยโดยนับรวมความผิดทั้ง 2 กระทง
ภายใต้กฎหมายบรูไน นางจุฑามาศ แซ่งัก อาจต้องโทษจำคุก 2 ปี และถูกปรับ 20,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 600,000 บาท) ต่อความผิดหนึ่งกระทง อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์บรูไนไทม์สไม่ได้เปิดเผยว่า ความผิดของจำเลยชาวไทยคนนี้ได้กระทำขึ้นเมื่อไร ที่ใด หรือมีลำดับเหตุการณ์อย่างไร
สัปดาห์ที่ผ่านมา ไลลาตุล ซูไบดะห์ หัวหน้าผู้พิพากษาศาลอาญาบรูไน มีคำตัดสินว่า นางจุฑามาศ แซ่งัก (Chuthamat Saegnag) จำเลยหญิงวัย 48 ปี ผิดจริงตามข้อหาเป็นธุระจัดหาผู้หญิง 2 คน เพื่อการค้าประเวณี เป็นความผิดจำนวน 2 กระทง บรูไนไทม์สรายงานวันนี้ (14)
ในการต่อรองขอลดหย่อนโทษ เอชเจ ซุล-ซูร์การ์ลา ทนายของนางจุฑามาศ ให้การต่อศาลว่า จำเลยเป็นหญิงสมรสแล้ว มีบุตรหนึ่งคนอยู่ในประเทศไทย โดยฝากให้มารดาวัย 70 ปี เป็นผู้ดูแล
เอชเจ ซุล-ซูร์การ์ลา ร้องขอความเห็นใจจากศาลว่า นางจุฑามาศอาจต้องโทษจำคุก ทั้งๆ ที่ผู้หญิงสองคนนั้นอยู่กับจำเลยด้วยความสมัครใจ โดยจำเลยไม่ได้หาประโยชน์ใดจากการค้าประเวณี
นอกจากนี้ ทนายซุล-ซูร์การ์ลากล่าวว่า การยึดหนังสือเดินทางก็เสมือนเป็นการลงโทษจำเลยแล้ว เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว นางจุฑามาศไม่สามารถเดินทางกลับมาเยี่ยมครอบครัวในช่วงที่บ้านประสบปัญหาอุทกภัย
ซุล-ซูร์การ์ลาวิงวอนต่อว่า ขอให้ตัดสินลงโทษความผิดสูงสุด “เพียงกระทงเดียว” หากศาลพิพากษาโทษจำคุกแก่นางจุฑามาศ พร้อมทั้งร้องให้ศาลพิจารณาข้อบังคับทั้งหมดให้ถี่ถ้วน ก่อนการตัดสินโทษ
ขณะเดียวกัน รองอัยการของบรูไนให้ข่าวตอบโต้ว่า ข้อหาต่อนางจุฑามาศสมบูรณ์ด้วยคำตัดสินของศาลแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากคดีนี้เกี่ยวข้องกับผู้เสีย 2 คน ศาลจะลงโทษจำเลยโดยนับรวมความผิดทั้ง 2 กระทง
ภายใต้กฎหมายบรูไน นางจุฑามาศ แซ่งัก อาจต้องโทษจำคุก 2 ปี และถูกปรับ 20,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 600,000 บาท) ต่อความผิดหนึ่งกระทง อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์บรูไนไทม์สไม่ได้เปิดเผยว่า ความผิดของจำเลยชาวไทยคนนี้ได้กระทำขึ้นเมื่อไร ที่ใด หรือมีลำดับเหตุการณ์อย่างไร
