เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ปากีสถานเป็นฝ่ายอนุมัติเปิดทางให้นาโตเข้าโจมตีทางอากาศบริเวณชายแดน โดยไม่เฉลียวใจว่า พื้นที่ดังกล่าวมีเพื่อนทหารร่วมชาติประจำการอยู่ เป็นผลให้ทหารปากีสถานเสียชีวิต 24 นาย ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานวันนี้ (2)
วอลล์สตรีท เจอร์นัล อ้างอิงรายงานสรุปเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ต่อเหตุการณ์ในคืนวันเสาร์ (26 พ.ย.) ที่แล้ว ซึ่งลุกลามกลายเป็นความบาดหมางระหว่างประเทศครั้งใหม่ และนับเป็นการสังหารกันเองระหว่างทหารพันธมิตรครั้งเลวร้ายที่สุดในสงครามอัฟกานิสถานอันยาวนานกว่า 10 ปี
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยผ่านวอลล์สตรีท เจอร์นัล ว่า หน่วยรบที่ประกอบด้วยทหารอัฟกานิสถาน-หน่วยคอมมานโดสหรัฐฯ กำลังไล่ล่ากลุ่มนักรบตอลิบานใกล้แนวตะเข็บชายแดนปากีสถาน ต่อมา หน่วยผสมอัฟกัน-อเมริกันชุดนี้ถูกโจมตีออกมาจากค่ายทหารปากีสถาน ซึ่งในเวลานั้นทหารทุกนายเข้าใจว่า เป็นแหล่งกบดานของฝ่ายตอลิบาน
หลังจากนั้น ทหารสหรัฐฯ จึงขอกำลังเสริมทางอากาศเข้าโจมตีค่ายทหารปากีสถานที่ถูกเข้าใจผิดเป็นด่านหน้าของตอลิบาน โดยติดต่อไปยังศูนย์บังคับบัญชาร่วมที่มีตัวแทนจากทั้งสหรัฐฯ อัฟกานิสถาน และปากีสถาน ประจำการอยู่ ขณะนั้น มีคำยืนยันจากปากเจ้าหน้าที่ปากีฯ ว่า ไม่มีทหารประจำการในพื้นที่ดังกล่าว เปิดทางให้นาโตเข้าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในทันที หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงาน
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวของวอลล์สตรีท เจอร์นัล ยอมรับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดของทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งสำทับว่า ข้อมูลล่าสุดนี้เป็นเพียงการสอบปากคำเบื้องต้นหน่วยคอมมานโดที่ร่วมปฏิบัติการ โดยสาระสำคัญของเหตุการณ์ที่แท้จริงอาจเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อมีข้อมูลได้รับการเปิดเผยออกมาเพิ่มเติม
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงยืนยันว่า ไม่มีเจตนาโจมตีกองกำลังปากีสถาน แต่ก็ปฏิเสธการขอโทษ ส่วนปากีสถานก็ระบุว่า การโจมตีทางอากาศของนาโตเกิดขึ้นชนิดไม่มีปี่มีขลุ่ย และกินระยะเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ทางพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ-ปากีสถาน ร้าวฉานหนักขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่กรุงวอชิงตันกล่าวหาทหารและหน่วยข่าวกรองของกรุงอิสลามาบัด ว่า ให้ความร่วมมือกับตอลิบาน และกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงอื่นๆ ฝ่ายปากีสถานก็กล่าวหาสหรัฐฯ กลับกรณีอากาศยานไร้นักบิน (โดรน) ที่ตั้งเป้าสังหารกลุ่มหัวรุนแรง แต่กลับคร่าชีวิตพลเรือนจำนวนมาก